แต่อยากจะบอกว่า ถ้ามองในแง่ของผู้บริหารแล้ว การที่อยู่ ๆ ท่านทั้งหลายก็อาศัยอำนาจของตน ไปปิดสถานที่พักผ่อนหรือว่าห้องรับรองของพระภิกษุสงฆ์ลงนั้น เป็นการที่ใช้สมองคิดน้อยไปหน่อย เนื่องเพราะว่าพระภิกษุสามเณรที่สามารถเดินทางโดยเครื่องบินนั้น อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีญาติโยมให้การสนับสนุน ๕ คน ๑๐ คน หรือว่าถ้าอย่างกระผม/อาตมภาพ ก็มีโยมให้การสนับสนุนเป็นร้อยเป็นพัน..!
ถ้าหากไปกล่าวแค่คำเดียวว่า ท่านทั้งหลายไม่ให้ความสะดวกกับพระภิกษุสงฆ์ คิดว่าบรรดาผู้ติดตามนั้นยังจะไปใช้บริการของท่านหรือไม่ ? นี่แค่พูดให้แง่คิดในลักษณะของผู้บริหาร ไม่ได้กล่าวถึงการเอาศาสนามาชนกัน เนื่องเพราะว่าถึงกล่าวไปว่าเป็นเรื่องของศาสนา ท่านทั้งหลายก็หาข้อแก้ตัวมาอยู่ดี
กระผม/อาตมภาพเห็นว่าถ้าเป็นคนดีควรที่จะแก้ไขมากกว่าที่จะไปแก้ตัว จึงขอให้คำแนะนำว่า ถ้าท่านทั้งหลายอยากจะบริหารงานให้เจริญรุ่งเรือง สิ่งใดที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความเคารพนับถือ ให้ความเชื่อฟัง ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายบริการให้ท่านเหล่านั้นด้วยความดี ด้วยความงามแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านั้นนั่นแหละ จะเป็นผู้ที่ไปโฆษณาความดีความงามของหน่วยงานท่าน หรือว่าสายการบินของท่านให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเอง โดยที่ท่านทั้งหลายไม่จำเป็นที่จะต้องเสียสตางค์แม้แต่บาทเดียว..!
ส่วนการที่ต้องเสียหน้า รีบแก้ไข หาห้องพักรับรองใหม่ แล้วยังแถมเป็นห้องสวดมนต์แคบ ๆ เหมือนอย่างกับห้องนอนในลักษณะ "ห้องกรง" ของทางด้านเมืองฮ่องกงก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้อะไรเลย
เพียงแต่อยากจะบอกกับท่านว่า ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพจะไม่ปล่อยเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ให้ผ่านไปเฉย ๆ แต่ลูกน้องคนไหนที่โง่แล้วขยัน กระผม/อาตมภาพจะฟันทิ้งไปทันที..! เพื่อไม่ให้บุคคลประเภทนี้มาอยู่สร้างความเสียหายให้กับหน่วยงานของตัวเองอีก เนื่องเพราะว่ามองแต่มุมแคบของตนเอง โดยที่ไม่ได้มองว่าสังคมส่วนรวมนั้นเป็นอย่างไร
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2024 เมื่อ 03:04
|