ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 05-12-2024, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อซักซ้อมจนคล่องตัวแล้ว ไปเรียนถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านว่า "ในส่วนอนุสติทั้ง ๑๐ กระผมสามารถที่จะไล่อารมณ์จนกระทั่งเต็มได้ภายใน ๓๐ นาทีแล้วครับ" หลวงพ่อท่านบอกว่า "ยังใช้ไม่ได้ลูก กรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง สมัยที่พ่อฝึก ถ้าใช้เวลาไล่อารมณ์เต็มถึง ๒ นาทีก็ถือว่าแย่แล้ว" ถ้าเป็นเด็กสมัยนี้ก็ต้องบอกว่า "ขิง ข่า ตะไคร้ มาทั้งสวนเลย..!" แต่พอเกิดความเข้าใจแล้ว ถึงได้ทราบว่า สิ่งที่ท่านพูดมานั้นก็คือเป็นตามนั้นจริง ๆ..!

เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองประกันความเสี่ยง ด้วยการเริ่มจาก ๑ - ๒ - ๓ - ๔ - ๕ - ๖ - ๗ - ๘ - ๙ - ๑๐ พอเปลี่ยนกองกรรมฐานก็ ๑ - ๒ - ๓ - ๔ - ๕ - ๖ - ๗ - ๘ - ๙ - ๑๐ จึงทำให้เสียเวลาไปนาน เมื่อปฏิบัติคล่องตัวมาก ๆ แค่เราก็เปลี่ยนจาก ๑๐ - ๑๐ - ๑๐ ก็หมดเรื่องไป ก็คือแค่เปลี่ยนกองกรรมฐานเท่านั้นเอง ใช้อารมณ์เท่าเดิม ไม่ต้องขยับเขยื้อนไปไหน

จากที่ตอนแรกคิดว่า "หลวงพ่อท่านเกทับเราหรือเปล่า ?" ก็กลายเป็นเข้าใจชัดเจนว่า สิ่งที่ท่านพูดมานั้นเป็นความจริงทั้งหมด แต่เราต้องทำให้ถึงเท่านั้น

ส่วนกรรมฐานอื่น ๆ ที่กระผม/อาตมภาพฝึกมา ในส่วนที่ยากที่สุดอยู่ที่อรูปฌาน ๔ และพรหมวิหาร ๔ กรรมฐาน ๘ กองนี้ถือว่าเป็นกรรมฐานที่ค่อนข้างจะยาก แต่ว่าถ้าหากว่าตั้งใจทำจริง ๆ ก็ไม่เกินกำลังของพวกเราที่จะทำได้ เพียงแต่ว่าอรูปฌานนั้น อย่างน้อย ๆ เราต้องทรงกสิณกองใดกองหนึ่งที่ไม่ใช่อากาสกสิณ ก็คือไม่ใช่กสิณอากาศหรือช่องว่าง เพราะว่ามีสภาพคล้ายคลึงกับสภาพของอรูปฌานเป็นปกติ
อยู่แล้ว

ดังนั้น..ในส่วนที่มีบุคคลถามว่า "อากาสกสิณ หรือว่ากสิณอากาศ กสิณช่องว่าง ต่างจากอากาสานัญจายตนฌานอย่างไร ?" ตอบง่าย ๆ ว่า
"อากาสกสิณนั้น เราจับแค่ช่องว่างที่กำหนดหรือตั้งใจว่า ส่วนอากาสานัญจายตนฌานนั้น เราจับความว่างไร้ขอบเขต" พูดง่าย ๆ ก็คือ "อย่างหนึ่งมีกรอบ อีกอย่างหนึ่งไม่มีกรอบ" แต่คำว่าไม่มีกรอบ เมื่อเลื่อนไปถึงวิญญาณัญจายตนฌาน ท่านอาจจะสังเกตเห็นว่า "อากาสานัญจายตนฌานนั้นก็ยังมีกรอบอยู่" อันนี้เอาไว้ทำถึงแล้วท่านทั้งหลายก็จะรู้เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2024 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา