วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตอนนี้พระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้วจากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ก็ได้อัญเชิญมาถึงประเทศไทยแล้ว พุทธศาสนิกชนมีเวลาที่จะสักการะพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วที่ท้องสนามหลวงเป็นเวลา ๗๓ วัน
ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ในเรื่องของพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้ว ไม่ว่าจะเป็นของประเทศศรีลังกาก็ดี ของประเทศจีนก็ตาม เป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนของประเทศนั้น รักใคร่และหวงแหนเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช่วาระที่สำคัญจริง ๆ อย่าหวังเลยว่าจะอัญเชิญไปที่ไหนได้ง่าย ๆ..!
ต้องถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะว่าแม้เราจะเดินทางไปถึงประเทศจีนเอง ก็ไม่แน่ว่าจะได้เข้าสักการะเหมือนกับที่ท้องสนามหลวง ถือว่าเป็นการสร้างพุทธานุสติระดับ "ครั้งหนึ่งในชีวิต" ก็คือถ้าสามารถติดตาติดใจเอาไว้ได้ ก็เท่ากับประกันความเสี่ยงในเรื่องของคติ คือที่ไปในเบื้องหน้าของเราได้เลย..!
แต่คราวนี้ในเรื่องของอนุสตินั้น จำเป็นที่จะต้องระลึกถึงบ่อย ๆ ระลึกถึงให้เคยชิน เพราะว่าจิตของเรามีสภาพจำ ถ้าหากว่าระลึกถึงจนเคยชิน ถึงเวลาฉุกเฉินขึ้นมา สภาพจิตก็จะเกาะความดีที่เราระลึกถึงโดยอัตโนมัติ แต่ขนาดนั้นก็ตาม ก็ยังมีบุคคลบางประเภทถึงแม้ว่าจะมีการปฏิบัติภาวนา ระลึกถึงความดีเป็นปกติ แต่ตอนช่วงก่อนตายมีอาสันนกรรมเข้ามาแทรก
อย่างเช่นว่าทำให้เกิดเสียงดังเหมือนใครทุบข้างฝาปังใหญ่ ทำให้ตกใจ จิตหลุดจากสิ่งที่ตนเองเกาะอยู่ แต่ก็ยังดีที่มีโอกาสไปผ่านตำหนักพระยายม ถ้าอย่างนั้นเมื่อท่านสอบสวนแล้ว โอกาสที่รอดจะมีสูงมาก เพียงแต่ว่าไม่สามารถที่จะไปยังสุคติได้ ในทันทีทันใดหลังจากที่เสียชีวิตแล้ว
จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายไม่ควรที่จะประมาทอย่างเด็ดขาดว่า "เราทำดีแล้ว เราทำถูกแล้ว" เพราะว่ากรรมเก่าในอดีตอาจจะมาสนองช่วงใดก็ไม่แน่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราจะต้องระมัดระวัง รักษาอนุสติหรือการระลึกถึงความดีส่วนใดส่วนหนึ่งเอาไว้เสมอ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2024 เมื่อ 02:17
|