อาตมภาพมาสายวัดป่าธรรมยุตก่อน ครูบาอาจารย์สมัยนั้นก็ "สู้แค่ตายลูก..สู้แค่ตายลูก" ลองสู้แล้วตายฟรีทุกครั้งเลย..! เนื่องเพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะสู้อย่างไรที่จะให้ตัวเองชนะ หรือถึงไม่ชนะก็อย่าแพ้ ถ้าแพ้ก็ต้องแพ้แบบชนะใจคนดู ไม่ใช่แพ้ยับเยิน..โดนเขาโห่ลงจากเวทีแบบนั้นไม่เอา..!
ถ้าหากว่ามาถึงระดับลูกไม้นี่ตัวใครตัวมัน ฝึกหัดกันเอาเอง แต่ตอนแม่ไม้นี่บอกได้ทุกอย่าง หรือบอกเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป เราเองจะใช้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ครูบาอาจารย์เขาถนัดลูกไม้แบบนี้ เราไปลองทำดูกลับไม่ได้เรื่อง โดนเขาน็อคหามลงจากเวทีมาอีก..!
เรื่องของการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องที่ถ้าเป็นไปได้ก็คือ ทุกวินาทีต้องรักษาอารมณ์ใจของเราไว้ให้ได้ ต่อเนื่องตามกันอย่าให้ขาด เพราะทันทีที่ขาด รัก โลภ โกรธ หลง จะแทรกเข้ามา แล้วถ้าแทรกเข้ามาได้เมื่อไร คราวนี้ก็ฟุ้งซ่านเป็นนาน นักปฏิบัติธรรมมีประสบการณ์โหดตรงนี้กันทุกคน จิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก แล้วแต่จะเรียกไป อาการเดียวกันนั่นแหละ ตอนแรกทำตัวเหมือนอย่างกับเป็นเทวดา พลาดตกลงมาก็หมาขี้เรื้อนดี ๆ นี่เอง หน้าคนอื่นยังไม่อยากจะมองเลย ทำไมกูเลวได้ขนาดนี้ ? ทำไมกูชั่วได้ขนาดนี้ ?
ตอนนี้ไปประณามตัวเองมีประโยชน์อะไร ? ต้องประณามตอนตัวเองจะทำสิ ด่าให้มันรู้ตัวจะได้ไม่ไปทำ ไม่ใช่ทำไปแล้วค่อยมาด่าตัวเอง มีประโยชน์อะไร ? โดนกิเลสลากไปหลายกิโลเมตรแล้ว..!
ดังนั้น..ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือพระ สิ่งสำคัญที่อยากเตือนก็คือ อย่าฝากชีวิตไว้กับครูบาอาจารย์ พระเรานี่แหละตัวดีเลย "เราทำตรงนี้เป็นอาบัติหนักหรือเปล่า ? ถ้าครูบาอาจารย์ท่านเตือนแปลว่าใช่ ถ้าท่านไม่เตือนแปลว่ายังไม่เป็น" โถ..มึงโดนอาบัติขาดความเป็นพระไปตั้งนานแล้ว ยังจะให้ครูบาอาจารย์เตือนอีก..!
ญาติโยมก็เหมือนกัน อธิษฐานมาตั้งแต่บ้านเลย "ถ้าหลวงพ่อเก่งจริง หนูคิดอย่างนี้ต้องบอกได้" เสียเวลาไปดู..กิเลสของกูยังตามไม่ค่อยจะทันเลย..! เพราะฉะนั้น..อย่าฝากชีวิตไว้กับครูบาอาจารย์
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2024 เมื่อ 02:38
|