ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 02-12-2024, 21:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าการฉันมื้อเดียวนี่ต้องบอกว่ากินได้น่ากลัวมาก สมัยกระผม/อาตมภาพฉันมื้อเดียว บาตรเบอร์ ๘ ครึ่งนี่ ทั้งคาวทั้งหวานรวมกันค่อนบาตร ถ้าหากว่าเป็นอาหารปกติก็ตก ๗ - ๘ จานเห็นจะได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันลงไปหมดได้อย่างไร ? แล้วมาตอนธุดงค์ มีอยู่เที่ยวหนึ่งเดินป่าไปประมาณเดือนเศษ ๆ อยู่แต่ในป่าก็ไม่มีอะไร นอกจากผักบ้าง หญ้าบ้าง ผลไม้หล่นเหลือจากลิงบ้าง ผ่านไป ๑ เดือน หลุดออกมาแถวบริเวณที่เคยเล่าให้ฟังว่า เดินออกมาตรงแถวบ้านไกรเกรียง - บ้านน้ำเอ่อ ของเขตอำเภอศรีสวัสดิ์ต่ออำเภอทองผาภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับห้วยขาแข้ง

มีโยมที่ไปตั้งแพหาปลาอยู่ พอเห็นพระธุดงค์ก็ "นิมนต์ครับ..นิมนต์ครับ" สามคนพ่อแม่ลูกก็เร่งหุงข้าว ทำกับข้าวมาถวาย ก็มีข้าวในหม้อไฟฟ้าใบเล็ก มีปลาทอด มีน้ำพริกผักต้ม มาประเคน กรวดน้ำ
รับพรอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่งรออยู่ กะว่าพระฉันเสร็จก็คงจะกินต่อ ปรากฏว่ากระผม/อาตมภาพกวาดเรียบ ไม่เหลืออะไรเลย..!

ถึงได้เข้าใจว่า "ทำไมชูชกถึงท้องแตกตาย ?" เพราะว่าร่างกายที่ขาดสารอาหารมาเป็นเดือน ๆ กินเข้าไปเท่าไรก็ไม่รู้สึกว่าอิ่มหรอก หิวอยู่ตลอด ก็กินไปได้เรื่อย ๆ ไม่รู้จักพอเสียที ถ้าได้สารอาหารครบเมื่อไร เขาถึงจะบอกว่าพอ แล้วเมื่อไรจะพอ ? ยังดีที่ว่าอาหารมีแค่นั้น ไม่อย่างนั้นกระผม/อาตมภาพ ก็คงท้องแตกตายเหมือนชูชกไปแล้ว..!

เพราะฉะนั้น..ต่อไปพวกเราต้องรู้จักระมัดระวัง ประมาณการณ์ว่าตนเองฉันแค่นี้ พอแค่นั้นต้องหยุด ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเสียผู้เสียคนเหมือนอย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมาด้วยตนเอง..!

อีกอย่างหนึ่งก็คือการธุดงค์ของคนอื่น กระผม/อาตมภาพไม่ทราบเหมือนกันว่าไปด้วยเจตนาอะไร ? เพราะว่าระยะหลังที่พบนั้น ส่วนใหญ่ออกธุดงค์เพราะว่าอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ พูดง่าย ๆ ก็คืออยู่วัดก็ทะเลาะกับชาวบ้านเขาเสียเปล่า ๆ จึงต้องออกป่าไป แล้วพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องไปตั้งสำนักของตัวเอง

ยังดีที่ทองผาภูมิของเราส่วนใหญ่โดนป่าไม้เขาอุ้มออกมาหมด เพราะว่าพอถึงเวลาไปตั้งสำนัก แรก ๆ ก็อาจจะมีแต่กุฏิเล็ก ๆ กับห้องน้ำห้องส้วมสักห้องหนึ่ง แล้วเดี๋ยวมีโยมศรัทธา ก็จะเข้าไปอยู่กันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าสำนักใหญ่ขึ้นมาจะจัดการได้ยาก พวกป่าไม้เขามีประสบการณ์ตรงนี้อยู่แล้ว พอถึงเวลาก็เลยอุ้มออกมาจนหมด..!

หลายที่ซึ่งกระผม/อาตมภาพไปเจอแล้วเป็นที่น่าอยู่มาก บางทีก็พักอยู่เป็นอาทิตย์ ถึงเวลาทำความสะอาดเรียบร้อย ข้าวของอะไรที่พอเหลือเป็นประโยชน์กับคนอื่น หรือว่าเราที่จะมาทีหลัง ก็ทิ้งเอาไว้ให้เขาที่นั่น กลับไปอีกทีมีคนมาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าสำนักเรียบร้อยแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2024 เมื่อ 01:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา