วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ได้เล่าเรื่องการธุดงค์ไปบางส่วนเมื่อช่วงที่ผ่านมา โดยที่การธุดงค์นั้น รูปแบบในปัจจุบันของเราก็มักจะคิดว่า ต้องแบกกลด สะพายบาตร เดินตามถนน เดินตามป่า แต่ความจริงแล้วก็คือหลักปฏิบัติซึ่งเราสามารถปฏิบัติที่ไหนก็ได้
อย่างการใช้ผ้า ๓ ผืน การบิณฑบาตเป็นวัตร การบิณฑบาตไปตามลำดับ ซึ่งการบิณฑบาตไปตามลำดับนั้น ก็คือมีพวกที่ประเภทรู้ว่าบ้านโน้นถึงเวลาก็จะถวายอาหารดี ๆ หรือไม่ก็มีซองปัจจัยด้วย ก็จะรีบจ้ำแซงบ้านอื่นที่เคยใส่บาตร เพื่อที่จะไปรับก่อน ตรงจุดนี้ถ้าหากว่าเราถือหลักธุดงควัตร ถือว่าขาด
หลวงปู่เจ้าคุณนรรัตน์ ธมฺมวิตกฺโก วัดเทพศิรินทราวาส ก่อนหน้านี้ท่านก็บิณฑบาตตามปกติ แต่ด้วยความที่ในกรุงเทพฯ วัดวาอารามมักจะใกล้กัน ถึงเวลาพระบิณฑบาตหลายวัดพร้อมกัน ท่านเดินแบบสำรวมไป แต่โดนพระวัดอื่นปาดหน้าเข้าไปรับบาตรก่อน เท่านั้นก็ยังพอทน แต่โยมบ่นให้ได้ยินว่า "เป็นพระทำไมแย่งกันอย่างกับหมาเลย..!?"
ท่านก็เลยคิดว่าครอบครัวตนเองมีฐานะพอ เลี้ยงท่านรูปเดียวมื้อเดียวน่าจะไม่สิ้นเปลืองมาก ตั้งแต่นั้นมาท่านก็เลยเลิกบิณฑบาต สั่งให้ทางบ้านส่งอาหารแทน นั่นคือสาเหตุของการแย่งกันบิณฑบาต ซึ่งมาระยะหลังก็มีทะเลาะเบาะแว้ง ถึงขนาดฟาดหัวกันด้วยบาตรมาแล้ว..! หรือการฉันมื้อเดียว ที่ภาษาพระใช้คำว่าเอกะอาสนะ ก็คือฉันอาสนะเดียว ขยับลุกขึ้นถือว่าเลิกเลย
ตรงจุดนี้หลวงปู่พระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน เคยเล่าให้กระผม/อาตมภาพฟัง ท่านบอกว่าเวลาที่กรรมมาสนอง ก็เล่นเราเต็มที่เลย ท่านออกธุดงค์ ปรากฏว่าพอเดินถึงบ้านคนก็เลยเวลาบิณฑบาตแล้ว ก็คือเลยเที่ยงแล้ว ท่านก็ต้องเลยตามเลย
วันรุ่งขึ้นพอถึงเวลาเดินไปเจอบ้านคน มีเวลาบิณฑบาตได้ ท่านเองรับบิณฑบาตแล้ว ก็เดินเข้าป่าในทิศทางที่ตนเองจะไปต่อ พอถึงสถานที่เหมาะสมก็นั่งลง ปูอาสนะ เตรียมที่จะฉันภัตตาหาร ท่านบอกว่าเพิ่งเปิบข้าวเข้าปากได้คำเดียว ช้างชาวบ้านตกมันหลุดวิ่งมาทางนั้น ท่านต้องคว้าบาตรลุกหลบเข้าป่า เพื่อให้ช้างผ่านไปก่อน แต่ด้วยความที่อธิษฐานฉันอาสนะเดียว ลุกขึ้นถือว่าสละสิทธิ์ อาหารที่เหลือก็เลยต้องสละทิ้งหมด..!
จนกระทั่งเดินต่อไปรุ่งขึ้นอีก ๑ วัน ถึงที่บิณฑบาต รับภัตตาหารจากญาติโยมได้แล้ว เดินต่อไปเพื่อหาที่ฉัน ปรากฏว่าพอจะนั่งลงก็หน้ามืดล้มฟุบไปเลย อดมาอย่างน้อย ๒ วันแล้ว ฟื้นขึ้นมาเลยเที่ยง ต้องอดอีกตามเคย..! นี่ถ้าหลวงปู่ท่านไม่ได้เล่าให้กระผม/อาตมภาพฟังเอง ก็คงสงสัยอยู่เหมือนกันว่าอะไรจะโหดปานนั้น ? ดังนั้น..การฉันอาสนะเดียว ถ้าหากว่าเคร่งครัดจริง ๆ ลุกขึ้นก็คือเลิกเลย ที่ท่านใช้คำว่า "ห้ามภัตที่มาภายหลัง" ก็คืออาหารที่ใครเอามาประเคนทีหลัง ไม่รับ ไม่ฉันทั้งหมด จนกว่าจะถึงมื้อต่อไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-02-2025 เมื่อ 20:46
|