| 
				  
 
			
			วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อเช้ามืดกระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพาราม ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อช่วยทำบวงสรวงขออนุญาตหล่อรูปพระไภษัชยคุรุ และปลุกเสกวัตถุมงคล ให้กับพระครูสังฆรักษ์ฬัสวัชร์ ฐิตสีโล พร้อมด้วยคณะ ก็คือมีหลายรายที่นำวัตถุมงคลมาเข้าพิธีด้วยกัน
 หลังจากนั้นแล้วก็ต้องรีบเดินทางกลับ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วงานของทางสำนักปฏิบัติธรรมอนันต์บูรพารามมีตอนบ่าย ๒ โมง แต่กระผม/อาตมภาพขอเปลี่ยนเวลา ก็เพราะว่าตอนขากลับนั้น ฝั่งตรงข้ามรถติดยาวเหยียดหลาย ๑๐ กิโลเมตร..! ได้ยินว่าที่หาดบางแสนมีเทศกาลจุดพลุ นักท่องเที่ยวไปกันหลายแสนคน คาดว่าเจ้าคุณหลวงตา (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) กับคณะ ซึ่งเดินทางเพื่อไปร่วมงานตอนบ่าย ๒ โมงตามเวลาเดิม น่าจะไม่แสนรู้เท่ากระผม/อาตมภาพ ก็ยังคงติดกันอีรุงตุงนังอยู่ตรงนั้นเอง
 
 เรื่องบางอย่างแต่ไหนแต่ไรมา พรรคพวกเพื่อนฝูงมักจะใช้คำว่า "แสนรู้" กับกระผม/อาตมภาพอยู่เสมอ แต่ความจริงถ้าท่านทั้งหลายหูไวตาไวหน่อย เรื่องพวกนี้เราสามารถที่จะรู้ได้ เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเราไม่ค่อยจะสนใจเรื่องอื่น นอกจากเป้าหมายของตนเอง
 
 เมื่อกลับมาก็ได้แวะไปที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) เพื่อเยี่ยมบรรดาพระวิปัสสนาจารย์ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั่น ทางพระวิปัสสนาจารย์ผู้ควบคุมการปฏิบัติ ขอให้กล่าวให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติธรรมสักหน่อยหนึ่ง จึงได้บอกไปว่า ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมมาตอนนี้เกิน ๓ วันแล้ว แต่ว่าหลายต่อหลายท่านกำลังใจยังฟุ้งซ่านเป็นปกติ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ใจไปต่อต้านแนวทางปฏิบัติที่ตนเองไม่คุ้นเคย พูดง่าย ๆ ว่าไม่สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับกรรมฐานแบบใหม่ได้ และโดยเฉพาะความรู้สึกต่อต้านที่ว่า ไม่ใช่แบบที่ครูบาอาจารย์ของเราสอนมา..!
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2024 เมื่อ 02:02
 |