ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 29-11-2024, 21:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปัจจุบันนี้ในส่วนที่น่าหนักใจก็คือ ส่วนที่ญาติโยมทั้งหลายมักจะกล่าวว่า คณะสงฆ์ของเราล้าสมัย มีการสอนลักษณะเดิม ๆ ไม่ทันสมัย ไม่น่าสนใจ ไม่ตื่นเต้น ทำให้ทุกคนห่างวัดออกไปเรื่อย แต่ถ้าหากว่ามีบุคคลที่ตั้งใจทำคอนเทนต์ สร้างความตื่นเต้นให้ก็แห่กันไปหา..!

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า บุคคลที่อยู่ในลักษณะนั้นยังเป็น "ผู้ถือมงคลตื่นข่าว" ก็คือที่ไหนเขาว่าดีก็แห่กันไปที่นั่น เป็นบุคคลที่ไม่มีความมั่นคงในตนเอง เพราะว่าถ้ามีความมั่นคงในตนเอง ยึดหลักธรรมการปฏิบัติได้ ก็จะตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไปเพื่อให้เกิดผลดีแก่ตนเอง


ในส่วนนี้ทางคณะสงฆ์ของเราก็จำเป็นที่จะต้องพัฒนา แต่ว่าต้องเป็นการพัฒนาที่เรายึดแก่น ก็คือหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ศีล สมาธิ ปัญญา เอาไว้ให้มั่น ไม่เช่นนั้นแล้วในส่วนอื่นถ้าพัฒนาตามไป ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค วิธีการ หรือว่าเทคโนโลยีอะไรก็ตาม มีแต่จะพาให้เราเป๋ออกนอกทาง

เหมือนอย่างกับที่บางประเทศ ถึงขนาดพระภิกษุของเขาไปเล่นดนตรี ไปร้องเพลงแร็ป เพื่อที่จะสร้างความสนใจให้กับวัยรุ่น แล้วจะได้มาสนใจในพระพุทธศาสนา กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า บุคคลที่สนใจนั้นก็ได้เป็นแค่สะเก็ดติดเปลือกไม้เท่านั้น แม้กระทั่งเปลือกก็ยังเข้าไม่ถึง แล้วจะไปเอากระพี้เอาแก่นธรรมได้ที่ไหน ?

เรื่องพวกนี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน เพียงแต่ว่าในสมัยก่อน ๆ นั้น เรื่องของสื่อต่าง ๆ ไม่ได้ไปทั่วโลกในพริบตาเดียวเหมือนกับสมัยนี้ การที่พระภิกษุสามเณรกระทำในสิ่งที่ผิดพลาด เพราะว่าเป็นปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส จึงไม่ได้ออกข่าวไปทั่ว จนกระทั่งกลายเป็นที่เอือมระอาของพุทธศาสนิกชนเหมือนอย่างในปัจจุบัน

เหตุที่เป็นเช่นนั้นมี ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือพุทธศาสนิกชนในสมัยนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้เข้าถึงธรรมอย่างแท้จริง แยกแยะออกว่าอะไรเป็นเปลือก อะไรเป็นแก่น อะไรเป็นเพียงกาฝากที่มาอาศัยเกาะพระพุทธศาสนา จึงให้การสนับสนุนแก่นแท้โดยที่ไม่หลงผิดทาง ไม่ใช่เหมือนกับสมัยนี้ที่ไปหลงสนับสนุนบุคคลบางประเภทที่คิดว่าเป็นแก่น แต่ถ้าพิจารณาจริง ๆ แล้วก็เป็นแค่สะเก็ดติดเปลือกไม้เท่านั้น

ประการต่อมาก็คือ ปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลสในปัจจุบันนี้มีจำนวนมากมายมหาศาล ตั้งแง่เรียกร้องจากคณะสงฆ์ต่าง ๆ นา ๆ แถมยังรู้ไม่จริงเสียด้วย ก็เลยเอาเรื่องของพระภิกษุสามเณรปุถุชนไปปะปนกับพระภิกษุสามเณรที่เป็นพระอริยเจ้า ไปเรียกร้องให้ปุถุชนกระทำตนแบบพระอริยเจ้า ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2024 เมื่อ 00:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา