ดูแบบคำตอบเดียว
  #14  
เก่า 26-11-2024, 21:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,637
ได้ให้อนุโมทนา: 158,515
ได้รับอนุโมทนา 4,488,517 ครั้ง ใน 36,246 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สภาพร่างกายพอถึงเวลา ระบบเมตาบอลิซึมจะเตือนให้รู้ว่าร่างกายต้องการอาหารแล้ว ถ้าเตือนแล้วเรายังไม่ฟัง ก็จะบีบให้เราปวดหัว เป็นเรื่องปกติเลย ปวดขมับสองข้าง คล้าย ๆ กับเป็นไมเกรน แต่ความจริงร่างกายของเราสามารถตั้งระบบได้ ก็คือบอกกับร่างกายว่า "ไม่มีให้กิน..! อีก ๑๐ ชั่วโมงค่อยมาทวง" ก็คือคืนนี้ไม่กินให้เอ็งอีกแล้วนะ พอโดนเข้าไปสัก ๒ - ๓ ครั้ง ร่างกายก็จะจำว่า "ช่วงนี้ไม่มีให้กิน" ก็จะเลิกทวงไปเอง

แต่ส่วนใหญ่ก่อนที่จะผ่านช่วงที่เลิกทวงเรา ก็ไม่ไหวเสียก่อน ความจริงก็ไม่ได้ไม่ไหวอะไรหรอก ก็แค่กลัวตาย ถ้าไม่กินเดี๋ยวจะหิวเป็นลมตาย ใช่หรือเปล่า ? ความกลัวทุกอย่างมีพื้นฐานมาจากความกลัวตายทั้งหมด ตรงจุดนี้อาตมภาพสามารถอธิบายได้ชัดแจ้งมาก เพราะว่าตามดูอยู่เป็นปี ๆ ว่าพวกเรากลัวอะไร ท้ายสุดสรุปได้ว่ากลัวตาย..!

กลัวจิ้งจก กลัวตุ๊กแก กลัวทำไม ? เดี๋ยวมันโดดเกาะ..ขยะแขยง..ทนไม่ไหว..ตาย..! โห..อะไรจะบอบบางปานนั้น..!
กลัวเสือกัด กัดแล้วเป็นอย่างไร ? ตาย..!
กลัวงูกัด กัดแล้วเป็นอย่างไร ? ตาย..!
กลัวผีหลอก หลอกแล้วเป็นอย่างไร ? ผีบีบคอเราตาย..!

สรุปแล้วลงที่เดียวหมด อย่าเสียเวลาเถียงกับคนที่นั่งดูนั่งเถียงกับตัวเองมาเป็นปี ๆ อย่างอาตมาเลย จะไปบอกว่าอันนี้ไม่ใช่ ไม่ได้กลัวตาย แค่กลัวเจ็บ มีหลายคนนะ..เถียงตัวเองด้วย "ไม่ได้กลัวตายหรอก กลัวเจ็บ" เจ็บมาก ๆ แล้วมึงเป็นอะไร ? ตาย..! ก็คือสรุปว่ากลัวตายนั่นแหละ

สมัยนั้นยังอยู่วัดท่าซุง วัดท่าซุงน่ายุคนั้นสงสารมากคืออเนจอนาถ ป่าช้าวัดท่าซุงไม่ใช่ป่าช้าธรรมดา เป็นป่าทึบเลย รกเลย เป็นดงไผ่ ป่าช้าวัดท่าซุงอยู่บริเวณที่เป็นตึกรับแขกใหม่ทุกวันนี้ ที่เรียกว่าตึกรับแขกใหม่ก็เพราะว่าหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านถล่มป่าช้าออก แล้วก็สร้างตึกใหม่ ก่อนหน้านี้ท่านรับแขกอยู่ที่ตึกนวราชบพิตร ข้างหอนาฬิกาหน้าโบสถ์

อาตมภาพก็ต้องโน่น ฝ่างูเงี้ยวเขี้ยวขอกับหนามไผ่เข้าไป ไปถึงก็กางกลด ปูผ้าพลาสติก เหน็บชายผ้า แล้วก็นั่งกรรมฐานอยู่ในนั้นแหละ ซ้ายก็ระแวง ขวาก็ระแวง ว่าจะมีตัวอะไรมาหรือเปล่าวะ ? ผีจะหลอกหรือเปล่า ?

ตอนใหม่ ๆ นี่พอย้อนกลับไปดูแล้วตลก พอกลางดึกเสียงงูเลื้อยมา ใบไม้ขยับแกรก ๆ ๆ ๆ กะดูจากเสียงแล้ว เต็มที่ก็ตัวแค่นิ้วชี้เท่านั้นแหละ อีกสักพักหนึ่ง ใจเริ่มปรุง ไม่ได้หยุดแค่นั้น "ตัวแค่นิ้วชี้ ถ้ามีพิษ กัดเราก็ตายนะ..!" เอ้อ ใจปรุงไปโน่น..! ความรู้สึกตอนนี้ "เฮ้ย..น่าจะใหญ่กว่านั้นอีกหน่อยมั้ง ?!" จากที่ตอนแรกมั่นใจว่าไม่เกินนิ้วชี้ ตอนนี้รู้สึกว่าน่าจะตัวใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย เพราะว่าเริ่มกลัวแล้ว ปรุงไปปรุงมาไม่กี่ชั่วโมง งูตัวนั้นรู้สึกว่าจะใหญ่เป็นเสาเรือนแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2024 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา