ในการกล่าวต้อนรับบรรดาผู้เข้าอบรม ตลอดจนกระทั่งให้โอวาท ท่านก็ยังกล่าวถึงว่า การฝึกพระวิปัสสนาจารย์เพื่อให้ทุกคนมีความเชี่ยวชาญชำนาญในเรื่องของการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วปัจจุบันนี้ ทางด้านวิชาการฆราวาสเขาสามารถสู้กับเราได้สบายมาก แต่ว่าในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ฆราวาสที่สามารถสอนธรรมนำปฏิบัติได้จริง ๆ นั้นมีน้อย ส่วนใหญ่แล้วก็เก่งแต่สำนวนการพูดเท่านั้น ถึงเราจะส่งคนอย่างวัดท่าขนุนออกไปสู้กับเขา ไม่ว่าจะเรื่องเนื้อหาสำนวนจะสู้ได้ขนาดไหนก็ตาม เขาก็ไม่ฟังหรอก พูดไปไม่ถูกใจเขาก็ด่ากลับมา..!
ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะต้องอดกลั้น อดทน ต่อสู้ตามแบบของพระภิกษุสงฆ์ของเรา ก็คือแสดงศักยภาพให้เขาเห็นว่า เราสามารถสอนธรรมนำปฏิบัติได้ดีกว่า ประมาณว่าไม่มีเวลาไปทะเลาะกับคุณหรอก คุณอยากจะทะเลาะก็เชิญทะเลาะไปฝ่ายเดียว อาตมภาพจะทำงานของตนเอง เป็นต้น
เมื่อพิธีเปิดโดยท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต, ศ., ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็กราบลาขอตัว เพื่อเดินทางกลับที่พัก
วันนี้มีบุคคลที่สอบถามเข้ามาในกลุ่มไลน์ ที่อยากจะกล่าวถึงมีอยู่ ๒ รายด้วยกัน รายแรกท่านถามว่า "เมื่อไปในป่าเขา หรือว่าสถานที่ลี้ลับ แล้วรู้สึกเหมือนอย่างกับว่าโดนดูดพลังปราณ กลับมาแล้วพลังชีวิตลดน้อยถอยลง มีการเจ็บไข้ได้ป่วยเสมอ อยากทราบว่ามีวัตถุมงคลอะไรที่พอจะป้องกันเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ได้ ?" ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ได้ตอบไปว่า "มีดหมอ เบี้ยแก้ และปรอทสำเร็จ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2024 เมื่อ 02:07
|