ท่านทั้งหลายที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ก็จะว่ากระผม/อาตมภาพ "เอานรกสวรรค์มาขายอีกแล้ว..!" เรื่องพวกนี้ท่านจะรู้ก็หลังจากที่เสียชีวิต เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่ไม่ได้มีทิพจักขุญาณ ไม่ได้มีอภิญญาสมาบัติที่จะรู้เห็นได้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แปลว่าท่านรู้เห็นแล้ว แต่ว่าแก้ไขกลับกลายอะไรไม่ทัน ก็ต้องไปทนทุกข์ยากลำบากกันเป็นกัปกัลป์อนันตชาติ..!
เป็นเรื่องที่น่าสงสารอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีสภาพจิตอันหยาบ ไม่สามารถเข้าถึง ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นส่วนละเอียด จนนำพาจิตของตนให้เจริญขึ้นไปสู่ภพภูมิที่ดี จนกระทั่งหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพานได้
แต่ว่าบุคคลที่เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริงก็หาได้ท้อถอยไม่ เนื่องเพราะว่าถ้าตนเองฝึกฝนขัดเกลาไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็ยังคงพากเพียรเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เรียกง่าย ๆ ว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง
ท่านต้องการจะทำลายพระพุทธศาสนาก็แล้วแต่ท่านเถิด กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่าพระพุทธศาสนาเป็นของจริง เป็นของแท้ ต่อให้ตั้งใจทำลายขนาดไหนก็ไม่สามารถที่จะทำลายได้ ยกเว้นพุทธบริษัททั้ง ๔ ที่จะทำตนเป็น "สนิมเหล็กกัดกินเนื้อเหล็ก" เสียเองเท่านั้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-11-2024 เมื่อ 02:24
|