องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึงบุรพกรรมของพระเจ้าพิมพิสารว่า ในอดีตเคยใส่รองเท้าเข้าไปในลานเจดีย์ โทษของการปรามาสพระรัตนตรัยที่เป็นเศษกรรม ตามทันมาในชาติปัจจุบันนี้ จึงทำให้โดนลูกชายลงโทษด้วยการใช้มีดโกนกรีดฝ่าเท้า..!
โบราณาจารย์และบรรพบุรุษของเรา เมื่อนำเอาเรื่องสองเรื่องนี้มาโยงกันเข้า ครั้นมาทำสิ่งที่ควรเคารพต่อพระสงฆ์ก็คือการใส่บาตร จึงได้มีการถอดรองเท้า แสดงออกซึ่งความเคารพและความเกรงโทษการปรามาสพระรัตนตรัย ดังนั้น..บรรดานักวิชาการที่สภาพจิตไม่ทราบว่ามืดบอด หรือว่าเถรตรงกันแน่ ? จึงได้ออกมายืนยันว่า "พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามสวมรองเท้าในขณะใส่บาตร"
ขณะเดียวกัน ญาติโยมทั้งหลายที่เป็นพุทธศาสนิกชน มีจิตศรัทธาจะใส่บาตรสร้างกุศลให้กับตัวเอง แต่กลับจิตหยาบจนเกินไป สวมรองเท้าในขณะที่ใส่บาตร ซึ่งกระผม/อาตมภาพจะปิดบาตรและเดินเลยไปทุกครั้ง ยกเว้นอยู่เฉพาะแม่ค้าปลาสดเท่านั้น เนื่องเพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านี้ต้องใส่รองเท้าบูตสูงถึงหัวเข่า เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าเปื่อยจากการที่ต้องเปียกน้ำอยู่ทั้งวัน ครั้นจะไปเสียเวลาถอดก็จะนานมาก จึงได้ให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นสวมบูต หรือว่าสวมรองเท้าในขณะที่ใส่บาตรได้ แต่ก็มีบางท่านที่บางวันลูกหลานเป็นคนขาย ตนเองก็สวมรองเท้าออกมาตามปกติเพื่อใส่บาตร ถ้าแบบนั้น ท่านก็ยังถอดรองเท้ากันด้วยตนเอง
เท่าที่สังเกตมา พุทธศาสนิกชนที่เป็นชาวมอญชาวพม่า ไม่ต้องเสียเวลาเตือน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ถอดรองเท้ากันทุกคน เพราะว่ากระทำกันเป็นปกติ แต่พุทธศาสนิกชนชาวไทย โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่อยู่ในสถานที่เจริญแล้วด้วยวัตถุ แต่ความเจริญด้านจิตใจน่าจะเข้าไม่ถึง จึงมองข้ามแบบธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่งาม แสดงออกซึ่งความละเอียดลึกซึ้งของคนรุ่นก่อน
ท่านทั้งหลายมองข้ามไปยังไม่พอ ยังจะกระทำในสิ่งที่จะเป็นโทษแก่ตนเองภายหลังอีกด้วย กระผม/อาตมภาพไม่อยากให้โทษเกิดกับท่านทั้งหลาย ก็เลยต้องทำเมินเดินเลยไปเสียเฉย ๆ ยกเว้นว่าท่านใดที่เด็กวัดเตือนแล้วรู้จักถอดรองเท้า ก็จะหยุดรับบาตรจากท่านตรงนั้น
เรื่องพวกนี้ก็คงจะมีให้บ่นให้ว่ากันไปได้ทุกอาทิตย์ เนื่องเพราะว่าช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวมีแต่จะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เนื่องเพราะว่าทองผาภูมิอากาศเย็นสบาย ทิวทัศน์งดงาม ผู้คนเป็นมิตร สถานที่เที่ยวใกล้เคียงมีเป็นจำนวนมาก สามารถที่จะไปแล้วคุ้มกับการเดินทางของตนเอง
แต่เมื่อท่านทั้งหลายมาแล้วกรุณาเถิด..สิ่งหนึ่งประการใดที่จะกระทำ ถ้าเป็นวัฒนธรรมประเพณีแล้ว โปรดศึกษาเสียหน่อย อย่าได้ประมาทว่าความชั่วเพียงเล็กน้อยแล้วไปกระทำ ในขณะเดียวกัน ก็อย่าไปประมาทว่าความดีเพียงเล็กน้อยแล้วไม่กระทำ เพราะว่าผลดีและชั่วทั้งหลาย ต่างก็จะส่งผลต่อท่านในระยะเวลาอันไม่นาน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-11-2024 เมื่อ 02:18
|