ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 23-11-2024, 18:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,637
ได้ให้อนุโมทนา: 158,515
ได้รับอนุโมทนา 4,488,514 ครั้ง ใน 36,246 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำคัญที่สุดคือพวกเราต้องพยายามในการประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมของเราให้เข้มแข็งจริงจัง จนกระทั่งเข้าถึง ถึงเวลาจะได้อธิบายขยายความที่ถูกต้องได้ สำคัญที่สุดก็คือ อย่าเอากิเลสไปชนกับคนอื่น ต้องครูบาอาจารย์ของกูเท่านั้นถึงจะถูก ต้องสายนี้เท่านั้นถึงจะถูก ต้องวัดท่าขนุนเท่านั้น..ฉิบหายเลย..!

เนื่องเพราะว่า "ต้อง" ทั้งหมดที่ว่ามานั้น มาจากพระพุทธเจ้าทั้งนั้น พระพุทธเจ้าเหมือนกับพ่อครัวใหญ่ แสดงวิธีการทำอาหารไว้ ๘๔,๐๐๐ วิธี ใครถนัดแบบไหน ทำแบบไหนอร่อย ก็ไปขายให้คนอื่นเขากิน คนกินแล้วชอบใจก็ไปเป็นลูกค้าประจำ จนกลายเป็นกรรมฐานสายโน้น กลายเป็นกรรมฐานสายนี้ แล้วใช่ของตัวเองไหมเล่า ? ก็มาจากพระพุทธเจ้าทั้งนั้น

แล้วคนกินก็ดันไปเถียงกันเอง "นี่ต้องก๋วยเตี๋ยวเท่านั้นถึงจะใช่ ข้าวราดแกงของแกไม่ใช่" คนโน้นก็บอกว่า "ข้าวราดแกงกับก๋วยเตี๋ยวมันเฮงซวย ใช้ได้ที่ไหน ต้องขนมปังไส้ทะลักเท่านั้น" กลายเป็นเอากิเลสไปชนกัน จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังที่สุด

เพราะนักปฏิบัติจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่อยากสอนคนอื่นเขา ถ้ารู้จริงแล้วสอนยังพอทน ถ้ารู้ไม่จริง ไปตีความเอาเองนี่ จะพาคนอื่นเตลิดเปิดเปิงหลงทางไปด้วย เพราะว่าการปฏิบัติพอไปถึงระดับหนึ่ง อุปกิเลสตัวหนึ่งที่เรียกว่าญาณ..ญาณะ..เครื่องรู้ จะปรากฏขึ้น จะคิดหาเหตุหาผลได้ทุกอย่าง สามารถดึงเอาความเชื่อมโยงมาได้ทั้งหมด ตำรากี่เล่มกูดึงมาได้หมด คิดว่าตัวเองเก่ง..บรรลุแล้ว โดยที่ลืมสังเกตไปว่า เรื่องที่รู้ทั้งหมดนั้น ยิ่งคิดยิ่งกว้างออกไป หาจุดจบไม่ได้ มันบอกเราทุกเรื่องยกเว้นทางพ้นทุกข์..!

เขาถึงได้ใช้คำว่า อุปกิเลส คือใกล้จะเป็นกิเลส ยึดเมื่อไรเป็นกิเลสทันที เป็นเรื่องที่นักปฏิบัติต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง ตั้งหน้าตั้งตาทำให้เกิดผลจริง ๆ แล้วเราจะอยู่ในบุคคลประเภทไหนค่อยว่ากันไป

ประเภทแรกก็คือ หม้อเปล่าปิด ไม่มีความดีกูก็หุบปากไว้
ประเภทที่สองก็คือ หม้อเปล่าเปิด ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง..โม้แม่งได้ทุกเรื่อง..!
ประเภทต่อไปก็คือ หม้อเต็มปิด ถึงรู้กูก็ไม่สอนใคร สอนผิดเดี๋ยวกูจะซวยไปด้วย..!
ประเภทสุดท้ายก็คือ หม้อเต็มเปิด รู้จริง สอนถูก
ถึงตอนนั้นก็ต้องไปค่อย ๆ พิจารณาเลือกเอาว่าเราจะเป็นบุคคลประเภทไหน ?

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2024 เมื่อ 18:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา