ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 23-11-2024, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างวันนี้ที่อยู่ ๆ ลมก็พัดบัญชีรับใบตอบปลิวไปติดขนมที่ทางโรงเรียนเตรียมเอาไว้ให้เป็นอาหารเพล แล้วเจ้าประคุณเถอะ..เหนียวยิ่งกว่ากาวอีก กว่าจะแกะออกมาได้ บัญชีใบนั้นก็เละเทะไปทั้งใบ..! จนท้ายที่สุดเลขาฯ พัฒน์ต้องแก้ปัญหาด้วยการไปปริ๊นท์มาใหม่ แล้วให้เด็กเซ็นใหม่ คือเรื่องที่ไม่น่าเกิด ถึงเวลาก็เกิดขึ้นได้เสมอ

พวกท่านจะเห็นว่าถ้าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น กระผม/อาตมภาพจะเฉย ๆ เสมอ ก็คือแก้ไขไปตามหน้างาน ไม่เสียเวลาไปโทษใคร และไม่เสียเวลาไปด่าใคร เพราะว่าการทำงานทุกอย่างต้องมีข้อผิดพลาด ต้องมีปัญหาให้แก้ไขที่หน้างานเสมอ อย่างที่ย้ำกับท่านทั้งหลายไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วว่า "เรารักษากำลังใจของเราเอาไว้ได้ตลอดงานหรือไม่ ?" ไม่ใช่พอช่วงท้าย ๆ เด็กห้องเราช้า ทำให้เราได้รับใบตอบคืนช้า เราก็เริ่มโกรธเด็กแล้ว..!

เนื่องเพราะว่างานการทุกอย่างนั้น เป็นการขัดเกลาและฝึกฝนตนเองทั้งสิ้น ถ้าเรามัวแต่คิดว่าแค่มานั่งสมาธิเท่านั้น ถึงจะเป็นการฝึกกำลังใจตนเอง ถ้าแบบนั้นขอให้ทราบว่าเข้าใจผิด วันหนึ่ง ๒๔ ชั่วโมง เรามีเวลามานั่งขัดเกลาจิตใจตัวเองกี่ชั่วโมง ? แล้วเวลาส่วนใหญ่เราก็ลอยตามกิเลสไป ถ้าแบบนั้นโอกาสที่จะชนะกิเลสไม่มีเลย แต่ถ้าหากว่าเราขัดเกลาตัวเองด้วยงานทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า โอกาสที่เราจะชนะกิเลสก็จะมีขึ้นได้


ดังที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเคยบอกพวกกระผม/อาตมภาพว่า "งานคันถะธุระ ไม่ว่าเป็นการศึกษา เล่าเรียน หรือว่าก่อสร้างก็ตาม ใครรับงานแล้วทำใจได้ วางกำลังใจได้ถูก โอกาสได้มรรคผลจะเร็วมาก" เพราะว่านั่นคือของจริงที่มาทดสอบเราเลย

จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตระหนักเอาไว้ว่า ปัญหามีเอาไว้แก้ แต่ถ้าหากว่าเกินกำลังของเรา กระผม/อาตมภาพได้ยินผู้รู้บางท่านบอกว่า ถ้าเกินกำลังที่เราจะแก้ได้ไม่เรียกว่าปัญหา ฟังดูก็เข้าท่าดี แต่ตั้งแต่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพยังไม่เห็นว่าปัญหาไหนเกินกำลัง ก็เลยต้องมีแต่ปัญหาให้แก้อยู่ตลอดมา..!

คราวนี้การที่เราท่านทั้งหลายแบกมานะเข้ามาในชีวิตนักบวช ส่วนที่พึงระวังที่สุดก็คือก่อนที่จะพ้นจากความเป็นพระนวกะ พ้น ๕ พรรษาขึ้นไป อย่าได้เอาประสบการณ์ตอนเป็นฆราวาสมาใช้ด้วยความมั่นใจว่าเราเอาตัวรอดได้ เพราะว่าการกระทำบางอย่างของเรา พลาดแล้วโอกาสแก้ตัวไม่มี ก็คือต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปเลย..!

อย่างวันก่อนที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า "พระเรามาใช้วิธีอธิษฐานว่าตนเองต้องอาบัติหนักหรือเปล่า ? ถ้าหากว่าต้องอาบัติหนัก หลวงพ่อต้องตักเตือน" ปรากฏว่าพอด่าไปก็มีผู้มาสารภาพ แล้วก็สอบถามต่อหน้า ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2024 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา