แบบที่กระผม/อาตมภาพช่วงที่เป็นพระใหม่อยู่ ๒ พรรษาแรกกิจนิมนต์ทั้งที่ตัวเองรับ และไปแทนคนอื่น จะไปทั้งหมด ไปจนกระทั่งมั่นใจว่าทุกงาน ไม่ว่าจะมงคลหรืออวมงคล พิธีกรรมขั้นตอนเป็นอย่างไร ? ต้องใช้บทสวดอะไรบ้าง ? รู้ครบถ้วนแล้ว พรรษาที่ ๓ ก็เริ่มให้รุ่นน้องไปแทนบ้าง
ครั้นพอออกมาอยู่ทางด้านนอก ปรากฏว่าเจอวัดอื่นเขามีการกล่าวสัมโมทนียกถาให้กับเจ้าภาพก่อน ที่จะกรวดน้ำหลังถวายภัตตาหารแล้ว ก็ต้องมาฝึกกล่าวสัมโมทนียกถา ของพวกนี้ถ้าหากว่าเราไม่ฝึกไม่หัดเอาไว้ ถึงเวลาไม่สามารถที่จะทำได้ กลายเป็นว่าภาระของคนอื่นก็หนักขึ้น เราก็กลายเป็นตัวถ่วงไป แต่ถ้าหากว่าเราทำได้ แนะนำคนอื่นได้ ทุกอย่างก็กลายเป็นของง่ายทีหลัง
ดังนั้น..เรื่องของการฝึกฝนตนเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะดูกำลังใจของตนเองเวลาทำงาน กระทบกับงานหนัก ๆ เข้า ใกล้วินาทีสุดท้ายแล้วเด็กยังไม่ส่งเสียที เราเครียดหรือเปล่า ? โกรธหรือเปล่า ? ไม่พอใจบ้างไหม ? วิชาที่ ๑ วิชาที่ ๒ สมาธิยังดีอยู่ พอรับไหว วิชาที่ ๓ วิชาที่ ๔ พังบรรลัยแล้วหรือเปล่า !?
ถ้าเป็นลักษณะนั้น แปลว่ากำลังของเรายังไม่พอสู้กับงาน ก็ต้องมาฝึกหัดเพิ่มเติมในเรื่องของสมาธิภาวนา ให้มีความคล่องตัวและยืนระยะได้มากขึ้น เหล่านี้เป็นต้น เพราะฉะนั้น..ทุกอย่างอย่าทำงานเฉย ๆ แต่ให้ทำอยู่ในลักษณะที่ขัดเกลาตนเองไปด้วย จะได้ไม่ขาดทุน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2024 เมื่อ 02:02
|