เราจึงต้องมีความตระหนักว่า สิ่งที่เราทำ คำที่เราพูด หรือแม้กระทั่งความคิด อย่างน้อยต้องอยู่ในกรอบของพระธรรมวินัย ถ้ารู้ตัวว่าไม่สามารถที่จะรักษาพระธรรมวินัยเอาไว้ได้ เราต้องตัดตอนตัวเองเลย ก็คือถ้าอยู่ไปแล้วจะทำความเสียหาย เราต้องไปด้วยตนเอง เมื่อเราเสียสละตนเอง วัดวาอารามก็ไม่เสียหาย พระพุทธศาสนาก็ไม่เสียหาย ศรัทธาของญาติโยมก็ไม่เสียหาย
จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เพราะว่าในปัจจุบันภาพพจน์คณะสงฆ์ของเราย่ำแย่มาก อย่างที่กระผม/อาตมภาพพูดไปในวันก่อน แล้วเราท่านแค่ไม่กี่คนถ้าไปช่วยกันแบก ก็เหมือนอย่างกับมดไม่กี่ตัวไปแบกภูเขาทั้งลูก..! แต่เราจะท้อก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้ จำเป็นต้องช่วยกันแบกต่อไป จนกว่าจะมีบุคคลที่เห็นด้วยแล้วเข้ามาช่วยกันแบกเพิ่มขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นแล้วก็เบาลง คณะสงฆ์ของเราก็จะมั่นคง ภาพพจน์ก็จะดีขึ้น ศรัทธาของญาติโยมก็จะแน่นแฟ้นขึ้น และท้ายที่สุดทำให้พระพุทธศาสนาของเราตั้งมั่นได้จนครบ ๕,๐๐๐ ปี
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2024 เมื่อ 02:22
|