โดยเฉพาะความเอื้อเฟื้อของพระเถระที่มีต่อพระผู้น้อย ในสายธรรมยุตนั้น พระผู้ใหญ่จะเป็นผู้แนะนำบุคคลที่มีความสำคัญหรือว่ามีฐานะดี ให้ช่วยไปอุปถัมภ์ค้ำจุดวัดโน้น สำนักนี้ และโดยเฉพาะเป็นผู้ทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี หรือว่าพระบรมวงศานุวงศ์ ไม่ว่าจะพระองค์ใดพระองค์หนึ่งก็ตาม ให้เสด็จไปยังวัดนั้น สำนักสงฆ์นั้น หรือว่าที่พักสงฆ์นั้น
โดยที่พระเถระผู้ใหญ่ที่มีความคุ้นเคยกับราชวงศ์ จะไปเป็นประธานในงาน ช่วยในการต้อนรับให้สมกับพระเกียรติยศที่เสด็จไป จนกระทั่งเขากล่าวกันได้ว่า วัดสายธรรมยุต ไม่ว่าจะวัดเล็กวัดใหญ่ อยู่ใกล้อยู่ไกลขนาดไหน จะต้องมีร่องรอยการเสด็จของพระญาติพระวงศ์ทั้งหมด ตรงจุดนี้ทางด้านมหานิกายของเราสู้ไม่ได้
กระผม/อาตมภาพเองเจอพระเถระรูปหนึ่ง พูดให้ได้ยินกับหู เนื่องเพราะว่าตอนนั้นมีวัดหนึ่งที่ทูลเชิญพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (พระยศในขณะนั้น) เสด็จไปเป็นประธานในงานของวัด พระเถระรูปนั้นพูดเข้าหูกระผม/อาตมภาพว่า "ทูลเชิญมาทำไม ? ทำให้เรื่องยากเสียเปล่า ๆ..!"
เราจะเห็นว่าพระเถระที่กระผม/อาตมภาพกล่าวถึง กับพระเถระฝ่ายธรรมยุตนั้น มีการกระทำที่ต่างกันมาก ฝ่ายหนึ่งตั้งใจที่จะสร้างภาพพจน์ที่ดีงามให้กับคณะสงฆ์ธรรมยุต ก็คือทำให้ญาติโยมที่อุปถัมภ์ค้ำชูต่อวัดวาอารามสายธรรมยุตได้เห็นว่า ทุกวัดได้รับเกียรติยศจากในรั้วในวังที่เสด็จไปถึง ไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนก็ตาม เท่ากับเป็นตราประทับช่วยรับรองว่า สถานที่นั้นเป็นสถานที่ที่ดี ควรแก่การเป็นเนื้อนาบุญไปในตัว
ในเมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ถ้าหากกล่าวถึงในเรื่องคณะสงฆ์ธรรมยุตและมหานิกาย ในปัจจุบันนี้ต่อให้มีคณะสงฆ์ธรรมยุตบางส่วนสร้างเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา แต่เรื่องเหล่านั้นก็จะโดนตัดตอนให้สงบลงในระยะเวลาอันรวดเร็ว คงจะถือหลักตามพุทธภาษิตที่ว่า จงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ จงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต และจงสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต เพื่อรักษาธรรม
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2024 เมื่อ 02:19
|