ต่อจากนั้นอีกเพียงวันเดียวก็กลายเป็นข่าวใหญ่ว่า "เจ้าอาวาสวัดดังในจังหวัดกาญจนบุรี ปรี๊ดแตกในเรื่องการเก็บค่าที่จอดรถ" ทำเอาพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ต้องมานั่งกุมขมับ บ่นกับกระผม/อาตมภาพว่า "เรื่องแค่นี้ก็จัดการไม่เป็น แล้วแถมอยู่ต่อหน้านักข่าวก็เก็บอารมณ์ไม่ได้อีกต่างหาก เสียทีที่ตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสจริง ๆ" ก็แปลว่าภาพพจน์ของคณะสงฆ์พังบรรลัยไปเรียบร้อยอีกเช่นกัน..!
วันนี้ก็มีข่าว "พระทะเลาะกับแม่ชีเรื่องค่าไฟ" ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น จะเป็นตู้แช่ และไฟฟ้าต่าง ๆ ใช้อย่างครื้นเครงเต็มที่ แต่ไม่มีช่วยจ่ายเลย เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพให้พระสงฆ์ในวัดท่าขนุนจัดการกันเอง ก็คือเก็บค่าไฟรูปละ ๑๐๐ บาท ถ้าหากว่าใครอยู่กุฏิส่วนตัว อย่างเช่นกุฏิแม่ชีในแดนสงบ ก็เก็บคนละ ๓๐๐ บาท เรื่องนี้เป็นคำสั่งเจ้าอาวาสเอง แล้วกระผม/อาตมภาพก็ถวายเบี้ยเลี้ยงให้รูปละ ๒๐๐ บาท สรุปก็คือเงินเจ้าอาวาสนั่นแหละที่ชักกลับมาครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นค่าไฟ..!
ในส่วนของแม่ชีนั้นก็ถวายปัจจัยให้รูปละ ๑,๐๐๐ บาท ใครมีกุฏิส่วนตัวที่จะอยู่อย่างสบายเป็นเอกเทศหน่อยก็จ่ายคืนมา ๓๐๐ บาท เนื่องเพราะว่าบิลล่าสุดที่ผ่านมา ค่าไฟวัดท่าขนุนอยู่ที่ ๖๙,๓๐๐ กว่าบาท ได้ยินแล้วจะเป็นลมตาย..! แม่ชีชื่น ศรีสองแคว หัวหน้าแม่ชีวัดท่าขนุนมาบอกว่า "หนูขอเบิกหลวงพ่อแค่ ๕๐,๐๐๐ บาท..!"
กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วจะเป็นลม..! "แค่ ๕๐,๐๐๐ บาท..!" แสดงว่าเงินในตู้สังฆทาน ค่าน้ำ ค่าไฟที่ญาติโยมหยอดทำบุญเอาไว้ มีแค่หมื่นกว่าบาทต่อเดือนเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเป็นเรื่องที่แต่ละวัดต้องบริหารจัดการให้ดี ถ้าไม่มีข้อตกลงกันที่ชัดเจนไว้ตั้งแต่แรก เดี๋ยวก็จะเกิดปัญหาทะเลาะกันอย่างวัดแห่งนี้ แล้วภาพพจน์คณะสงฆ์ก็จะพังบรรลัยยิ่งขึ้น..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2024 เมื่อ 01:47
|