เนื่องเพราะว่าพระพิมพ์เมื่อสร้างแล้วมีการเผาไฟให้แกร่ง สามารถอยู่ไปได้หลายร้อยปีหรือว่านับพันปี บุคคลต่อให้ถึงเวลาแล้วไม่ทราบว่าสถานที่นั้นเคยมีวัดวาอาราม หรือว่าปูชนียสถานสำคัญในพระพุทธศาสนาอยู่ เมื่อถึงเวลาไปขุดพบเข้าก็จะทราบได้ทันที ถ้ามีศรัทธาฟื้นฟูบูรณะ ก็สามารถนำเอาวัตถุมงคลนั้นออกมา ให้เป็นประโยชน์แก่พุทธศาสนิกชนรุ่นหลัง ๆ ได้
ประการที่สองของการสร้างวัตถุมงคลก็คือ โบราณาจารย์ท่านต้องการจะโยงจิตของเราให้นึกถึงความดี อย่างเช่นว่านึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสติ นึกถึงพระธรรมคำสอนที่ครูบาอาจารย์กำชับกำชามาอย่างเช่นว่า "ต้องเป็นคนดีนะ..ต้องมีศีลนะ..ต้องเคารพพ่อแม่ครูบาอาจารย์นะ วัตถุมงคลถึงจะคุ้มครองให้" นี่เป็นหลักธรรมในเบื้องต้น และท้ายที่สุดก็จะมีการให้ภาวนาเพื่อกำกับเอาไว้อีก
ก็แปลว่าถ้านึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสติ นึกถึงคำสอนเป็นธัมมานุสติ นึกถึงหลวงปู่หลวงพ่อผู้ให้เป็นสังฆานุสติ บังคับตนเองต้องถือกฎเกณฑ์กติกาการใช้วัตถุมงคลนั้น จัดเป็นสีลานุสติ การต้องอาราธนาอยู่ทุกวันนั้นจัดเป็นการภาวนาในสมาธิ
ก็แปลว่าเหลือเพียงประการสุดท้ายก็คือ ท่านจะสามารถมองเห็นทุกข์เห็นโทษของการที่เราต้องอยู่ในวัฏสงสารนี้ด้วยความกลัว แล้วต้องการที่จะหลุดพ้นหรือไม่ ? เนื่องเพราะว่าสรรพชีวิตล้วนแล้วแต่กลัวความตายทั้งสิ้น การยึดถือวัตถุมงคลก็เพื่อหวังให้ตนเองรอดไปในสถานการณ์รุนแรงต่าง ๆ ได้ถือว่าเป็นการช่วยให้ตนรอดจากความกลัว
ในเมื่อวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ชาติแล้วชาติเล่าเราต้องจมอยู่กับความกลัว ถ้าอย่างนั้นสมควรที่จะพอ และหาทางออกจากกองทุกข์ ที่ถือว่าเป็นหลักปัญญาหรือยัง ? ก็แปลว่านอกจากจะเป็นเครื่องโยงจิตให้ระลึกถึงความดีแล้ว ยังเป็นอุบายให้ปฏิบัติในไตรสิกขาเบื้องต้นอีกด้วย
ส่วนอานุภาพต่าง ๆ ของวัตถุมงคล ไม่ว่าจะช่วยรักษาตนเอง ช่วยรักษาครอบครัว ตลอดไปถึงการช่วยรักษาประเทศชาตินั้น ถือว่าเป็นของแถมที่ไม่ต้องกล่าวถึงก็ยังได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวกระผม/อาตมภาพเองที่ปลุกเสกวัตถุมงคล ก็เพราะว่ามีผู้เลื่อมใสศรัทธา มั่นใจว่าสามารถที่จะอาราธนาคุณพระให้ลงสถิตในวัตถุมงคลเหล่านั้นได้ จึงมีผู้ศรัทธานิมนต์ไป
แล้วในขณะเดียวกัน ถ้ากล่าวว่าการสร้างวัตถุมงคลถือเป็นเดรัจฉานวิชา หาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่ชอบ ท่านต้องเข้าใจว่าคำว่า "เดรัจฉานวิชา" ก็คือ "วิชาที่ขวางต่อการบรรลุมรรคผล"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2024 เมื่อ 01:48
|