กระผม/อาตมภาพเรียนถวายเสร็จ หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดท่านก็หัวเราะ บอกว่า "แสดงว่าพวกนี้ลืมไปแล้วว่าหลวงปู่สายท่านเคร่งครัดกับลูกหลานขนาดไหน สมัยนั้นถ้าหากว่าขาดสวดมนต์ทำวัตรครั้งแรก ท่านจะตักเตือน ขาดครั้งที่ ๒ ท่านจะคาดโทษ ถ้าขาดครั้งที่ ๓ ท่านให้หาเสื้อผ้ามาแล้วสึกให้เลย..! บอกว่าเป็นพระเป็นเณรแล้ว ถ้าหากว่าขี้เกียจทำกิจของสงฆ์ ไม่สวดมนต์ทำวัตร บิณฑบาต เจริญกรรมฐานก็อย่าอยู่ให้รกพระพุทธศาสนาเลย ท่านจัดการจับสึกไปเสียนับไม่ถ้วนแล้ว ขนาดหนีไปอยู่ต่างจังหวัด ท่านยังตามไปสึก เพราะถือว่าท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ ต้องรับผิดชอบลูกศิษย์ของตนเอง"
แล้วก็กล่าวไปถึงเรื่องของ "ท่านปีนเสา" ที่ยังดื้อแพ่งไม่ยอมสึก ทั้ง ๆ ที่กลายเป็นพระเร่ร่อนไร้สังกัด ผิดกฎหมายคณะสงฆ์ไทย แล้วก็โยงไปจนกระทั่งเรื่องเจ้าอาวาสวัดถ้ำเสือ (ท่าม่วง) ซึ่งขอเก็บค่าจอดรถคันละ ๒๐ บาทแล้วโดน "ทัวร์ลง" หลายต่อหลายท่านก็ด่าหยาบคายจนกระทั่งฟังไม่ได้
โดยที่กระผม/อาตมภาพสรุปว่า เจ้าอาวาสท่านทำผิดไปหน่อย ก็คือเก็บอารมณ์ต่อหน้าผู้สื่อข่าวไม่ได้ ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพก็จะติดป้ายตัวเบ้อเร่อเอาไว้ตรงปากทางเข้าที่จอดรถว่า "ค่าจอดคันละ ๒๐ บาท" คนที่เข้ามาเขารู้ว่าต้องเสียเงิน ถ้าไม่อยากเสียเงินเขาก็ไม่เข้ามา แล้วเราก็ไปยื่นบิลเก็บเงิน หรือให้เด็กวัดไปยื่นบิลเก็บเงินก็จบแล้ว เมื่อกล่าวกันมาถึงตรงนี้ ก็เลยกลายเป็นการนินทาเพื่อนพระสังฆาธิการไปเสียนี่..!
ครั้นอยู่จนกระทั่งพิธีเปิดการสอบและตรวจเยี่ยมสนามสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็กลับมานอนหมดสภาพอยู่ที่วัดท่ามะขาม เพิ่งจะเหยียบเข้าสู่ที่พัก ฝนก็กระหน่ำลงมายกใหญ่ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ชายชราอายุ ๖๕ ย่าง ๖๖ ปี มา ๕ เดือนแล้ว ร่างกายจะไหวหรือว่าไม่ไหว
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ต้องรีบบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน หลังจากนี้ก็จะได้ฉันยา และเข้าสู่รายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม กว่าที่จะจบการปฏิบัติธรรมช่วงค่ำของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ก็ต้องถึง ๓ ทุ่มแล้วเท่านั้น..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2024 เมื่อ 03:19
|