บรรดารุ่นน้องจากวัดท่าซุงได้ยินหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ (พระราชภาวนาโกศล วิ.) ตอนนั้นยังเป็นพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณอยู่ ท่านบอกว่า "ถ้าพวกคุณอยากธุดงค์แบบมีเสือมีช้าง ให้ไปหาอาจารย์เล็กนะ" ไอ้รุ่นน้องก็มากันเลย
ขอนินทาหน่อย อาตมภาพก็ถามพวกท่านว่า "จะฉันไหม ?" ท่านบอกว่า "แล้วแต่หลวงพี่ครับ" "ถ้าแล้วแต่ผมก็ไม่ต้องฉันหรอก..ไปกันเถอะ..!" เก็บข้าวของเล็กน้อยใส่บาตรได้ก็พาเดินเลย พอวันที่ ๒ เท่านั้นแหละหน้าเหี่ยวมาเชียว "หลวงพี่ครับ ไม่ไหวแล้ว ขอกลับเถอะครับ" ไม่ได้กินแค่ ๒ วันจะตายแล้ว..! ตั้งแต่นั้นมาเขาลือกันให้หึ่งเลยว่า "อาจารย์เล็กพารุ่นน้องไปอยู่ด้วยธรรมปีติ..!" ตั้งแต่นั้นมา ไม่มีพระวัดท่าซุงมาขอธุดงค์ด้วยอีกเลย..!
ไอ้ที่เมื่อครู่กล่าวอยู่คำหนึ่งว่า "เมืองมนุษย์" โดยเฉพาะสมัยยุคต้น ๆ จะบอกว่าต้นกัปก็นานเกินไปนะ คน สัตว์ ผี เปรต อสุรกายอยู่ปนกันหมด ความจริงทุกวันนี้เขาก็อยู่ปนกัน เพียงแต่ว่าสภาพจิตที่สัมผัสได้เหมือนมนุษย์ยุคต้นกัปมันไม่ค่อยมีแล้ว ฝึกกันแทบเป็นแทบตายกว่าที่จะได้สักคนหนึ่ง..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พอถึงเวลาเจอกัน เขาก็จะถาม อย่างเช่นว่า "ท่านเป็นคนหรือเปล่า ?" ถ้าภาษาโบราณ ๆ แถวบ้านเราก็ "เจ้าเป็นไทบ้านใด๋ ?" ไอ้คำว่า "ไท" นี่แปลว่า "คน" นะ คือป้องกันว่าไอ้เจ้านี่จะเป็นผีหรือเปล่า ? ถามกันให้ชัดก่อน ไปไกลเกินไปหรือเปล่า ? เกิดไม่ทันยังไม่พอ ตามไม่ทันอีกต่างหาก..ใช่ไหม ?
เวลาอยู่ในป่า หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านสอนว่าอย่าขี้สงสัย เพราะว่าหลวงพ่อเองขี้สงสัยจนอดข้าวมา ๓ วันมาแล้ว ก็คือพอเช้าเดินออกบิณฑบาต อยู่ในป่าลึกแท้ ๆ มีเด็กมาใส่บาตร ด้วยความที่ปากคัน หลวงพ่อรูปหนึ่งก็ถามว่า "อีหนู..บ้านอยู่ไหน ?" เด็กนั่นหัวเราะ..แล้วเดินลับหายหลังต้นไม้ไป หายไป ๓ วันไม่มาใส่บาตรอีกเลย..อดกันหน้าแห้ง..!
พอคืนวันที่ ๓ เห็นหลวงปู่ปานมา ท่านบอกว่า "รุกขเทวดาเขามาใส่บาตรยังทะลึ่งไปถามเขาอีก เราต้องการอะไร ? ต้องการข้าว เขาให้ข้าวก็พอแล้ว ไม่ต้องเสือกไปรู้เรื่องคนอื่น พรุ่งนี้เขาจะมาใส่บาตรอีก แล้วอย่าถามอีกนะ..ถ้าถามอดแน่..!" พอรุ่งขึ้นเขามาใส่บาตรใหม่ หลวงพ่อ ๓ รูปก้มหน้าดูบาตรอย่างสำรวมสุด ๆ หน้ายังไม่มองเลย กลัวอดข้าว
อาตมภาพเวลาเดินธุดงค์ในบางช่วง ช่วงแรก ๆ คนขอตามกันเยอะ มาระยะหลังเขาไม่ตามด้วยหรอก ด้วยสาเหตุที่ว่า ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือชอบเดิน เดินแบบมาตรฐานคือวันละ ๔๐ กิโลเมตร นี่ปกติ ๆ เลยนะ ถ้าเร่ง ๆ ทุ่งใหญ่ ๙๓ กิโลเมตร วันเดียวเดินทะลุเลย..! คนอื่นเขาตามกันไม่ไหว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2024 เมื่อ 00:59
|