ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 16-11-2024, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเข้าใจแล้ว พอมาเจอ "พระปีนเสา" เข้าก็พอเข้าใจคำว่า "ปทปรมะ" ไปด้วย พวกเราที่จดจำได้ถึงบุคคลประเภทที่เรียกว่าปทปรมะ ก็มักจะคิดว่าเป็นพวกที่สั่งสอนไม่ได้ แต่ความจริงไม่ใช่สั่งสอนไม่ได้ แต่เป็นพวกที่ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว ไม่ว่าใครจะยัดเยียดอะไรให้ด้วยความหวังดี ท่านก็ไม่รับเสียทั้งสิ้น มีการแถข้างเอาตัวรอดไปอยู่ตลอดเวลา จึงได้ชื่อว่าปทปรมะ แปลว่ามากด้วยบทบาทอย่างยิ่ง เมื่อมาเจอ "พระปีนเสาเข้า" ถึงได้เข้าใจว่าคำว่า "ผู้มากด้วยบทบาท" นั้นเป็นอย่างนี้นี่เอง

ก็ต้องเจริญพรขอบคุณท่านผู้ที่ได้รับฉายาว่า "เปรตเดินดิน" ซึ่งสึกหาลาเพศเป็น "ทิด" ไปแล้ว และขอขอบพระคุณท่าน "พระปีนเสา" ที่ทำให้กระผม/อาตมภาพเข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถึงศัพท์ในพระไตรปิฎกทั้ง ๒ คำนี้ เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจ เมื่อเห็นข้อวัตรปฏิบัติของท่านแล้ว จึงได้เข้าใจมากขึ้น

ขอให้อานิสงส์นี้ส่งผลให้ท่านทั้งสองเป็นผู้ที่ประกอบด้วยดวงปัญญา สามารถนำตนให้พ้นจากความมืดบอดทั้งปวงขึ้นมา ได้เห็นแสงเห็นธรรมกับคนอื่นเขาบ้าง ไม่ใช่ว่ามาสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาไปเรื่อย ๆ แบบนี้..!

ตอนนี้เข้าใจว่าท่าน "พระปีนเสา" เป็นที่ต้องการของคณะสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า
กฎหมายคณะสงฆ์นั้นห้ามพระเร่ร่อน ไร้สังกัด ถ้าหากว่าไม่มีสังกัดก็ต้องโดนจับสึกสถานเดียว..! แล้ว "ท่านปีนเสา" ก็ย้ายวัดมาหลายวัดเต็มทีแล้ว จากวัดปุรณาวาสก็ย้ายไปอยู่วัดตะล่อม จากวัดตะล่อมก็ย้ายไปอยู่วัดไทรม้าใต้ จากวัดไทรม้าใต้ก็ย้ายไปอยู่วัดโพธิ์ทะเล จากวัดโพธิ์ทะเลก็ย้ายไปอยู่วัดสามชุก พูดง่าย ๆ ว่าอยู่ที่ไหนก็โดนเขาขับออกจากวัด ช่างเป็นบุคคลที่มีความสามารถมากเหลือเกิน..!

แล้วขณะเดียวกัน ก็ไม่มีความสำนึกในความประพฤติของตนเองเลยว่า สร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์อย่างไร จัดเป็นมิจฉาทิฏฐิประเภทหนึ่ง ก็คือเห็นว่าสิ่งที่ตนกระทำนั้นเป็นความสามารถ ในเมื่อเห็นเป็นความสามารถจึงไม่สะทกสะท้าน สามารถทำทุกอย่างในลักษณะการ "หาแสง" ให้กับตนเอง


ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ตนเองทำนั้น สร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์ สร้างความเอือมระอาให้แก่เพื่อนสหธรรมิกต่าง ๆ คาดว่าต่อจากนี้ไปท่านก็คงจะทำอะไรยากแล้ว เนื่องเพราะเห็นว่ามีบางคลิปของท่านที่เพื่อนฝูงส่งมาให้ดูนั้น ท่านไปบิณฑบาตแล้วไม่มีใครใส่บาตรให้ฉัน เพราะความโด่งดังของท่านทำให้คนจำหน้าได้เสียแล้ว ท่านก็ยังบ่นน้อยใจว่า "ต้องไปซื้ออาหารในร้านสะดวกซื้อมาฉันเอง ไม่สามารถที่จะบิณฑบาตได้" โดยที่ก็ไม่ได้ดูว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่ใส่บาตรให้ท่านฉัน

บุคคลประเภทนี้นอกจากทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว ไม่ยอมรับความคิดคนอื่นแล้ว ยังเป็นบุคคลที่มืดบอด น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง คาดว่าคติคือที่ไปของท่านนั้นคงจะต้องลงต่ำอย่างแน่นอน
ก็ได้แต่เอาใจช่วยว่าท่านอย่าได้ลงต่ำไปนานนัก อานิสงส์ผลบุญที่ช่วยให้กระผม/อาตมภาพเข้าใจพระไตรปิฎกดีขึ้น ก็คงจะช่วยยกให้ท่านพ้นจากเขตนั้นขึ้นมาได้เร็วขึ้นกว่าเดิมสักนิดหนึ่ง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2024 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา