ในเมื่อเข้าใจแล้ว พอมาเจอ "พระปีนเสา" เข้าก็พอเข้าใจคำว่า "ปทปรมะ" ไปด้วย พวกเราที่จดจำได้ถึงบุคคลประเภทที่เรียกว่าปทปรมะ ก็มักจะคิดว่าเป็นพวกที่สั่งสอนไม่ได้ แต่ความจริงไม่ใช่สั่งสอนไม่ได้ แต่เป็นพวกที่ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว ไม่ว่าใครจะยัดเยียดอะไรให้ด้วยความหวังดี ท่านก็ไม่รับเสียทั้งสิ้น มีการแถข้างเอาตัวรอดไปอยู่ตลอดเวลา จึงได้ชื่อว่าปทปรมะ แปลว่ามากด้วยบทบาทอย่างยิ่ง เมื่อมาเจอ "พระปีนเสาเข้า" ถึงได้เข้าใจว่าคำว่า "ผู้มากด้วยบทบาท" นั้นเป็นอย่างนี้นี่เอง
ก็ต้องเจริญพรขอบคุณท่านผู้ที่ได้รับฉายาว่า "เปรตเดินดิน" ซึ่งสึกหาลาเพศเป็น "ทิด" ไปแล้ว และขอขอบพระคุณท่าน "พระปีนเสา" ที่ทำให้กระผม/อาตมภาพเข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถึงศัพท์ในพระไตรปิฎกทั้ง ๒ คำนี้ เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจ เมื่อเห็นข้อวัตรปฏิบัติของท่านแล้ว จึงได้เข้าใจมากขึ้น
ขอให้อานิสงส์นี้ส่งผลให้ท่านทั้งสองเป็นผู้ที่ประกอบด้วยดวงปัญญา สามารถนำตนให้พ้นจากความมืดบอดทั้งปวงขึ้นมา ได้เห็นแสงเห็นธรรมกับคนอื่นเขาบ้าง ไม่ใช่ว่ามาสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาไปเรื่อย ๆ แบบนี้..!
ตอนนี้เข้าใจว่าท่าน "พระปีนเสา" เป็นที่ต้องการของคณะสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ากฎหมายคณะสงฆ์นั้นห้ามพระเร่ร่อน ไร้สังกัด ถ้าหากว่าไม่มีสังกัดก็ต้องโดนจับสึกสถานเดียว..! แล้ว "ท่านปีนเสา" ก็ย้ายวัดมาหลายวัดเต็มทีแล้ว จากวัดปุรณาวาสก็ย้ายไปอยู่วัดตะล่อม จากวัดตะล่อมก็ย้ายไปอยู่วัดไทรม้าใต้ จากวัดไทรม้าใต้ก็ย้ายไปอยู่วัดโพธิ์ทะเล จากวัดโพธิ์ทะเลก็ย้ายไปอยู่วัดสามชุก พูดง่าย ๆ ว่าอยู่ที่ไหนก็โดนเขาขับออกจากวัด ช่างเป็นบุคคลที่มีความสามารถมากเหลือเกิน..!
แล้วขณะเดียวกัน ก็ไม่มีความสำนึกในความประพฤติของตนเองเลยว่า สร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์อย่างไร จัดเป็นมิจฉาทิฏฐิประเภทหนึ่ง ก็คือเห็นว่าสิ่งที่ตนกระทำนั้นเป็นความสามารถ ในเมื่อเห็นเป็นความสามารถจึงไม่สะทกสะท้าน สามารถทำทุกอย่างในลักษณะการ "หาแสง" ให้กับตนเอง
ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ตนเองทำนั้น สร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์ สร้างความเอือมระอาให้แก่เพื่อนสหธรรมิกต่าง ๆ คาดว่าต่อจากนี้ไปท่านก็คงจะทำอะไรยากแล้ว เนื่องเพราะเห็นว่ามีบางคลิปของท่านที่เพื่อนฝูงส่งมาให้ดูนั้น ท่านไปบิณฑบาตแล้วไม่มีใครใส่บาตรให้ฉัน เพราะความโด่งดังของท่านทำให้คนจำหน้าได้เสียแล้ว ท่านก็ยังบ่นน้อยใจว่า "ต้องไปซื้ออาหารในร้านสะดวกซื้อมาฉันเอง ไม่สามารถที่จะบิณฑบาตได้" โดยที่ก็ไม่ได้ดูว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่ใส่บาตรให้ท่านฉัน
บุคคลประเภทนี้นอกจากทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว ไม่ยอมรับความคิดคนอื่นแล้ว ยังเป็นบุคคลที่มืดบอด น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง คาดว่าคติคือที่ไปของท่านนั้นคงจะต้องลงต่ำอย่างแน่นอน ก็ได้แต่เอาใจช่วยว่าท่านอย่าได้ลงต่ำไปนานนัก อานิสงส์ผลบุญที่ช่วยให้กระผม/อาตมภาพเข้าใจพระไตรปิฎกดีขึ้น ก็คงจะช่วยยกให้ท่านพ้นจากเขตนั้นขึ้นมาได้เร็วขึ้นกว่าเดิมสักนิดหนึ่ง..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2024 เมื่อ 02:38
|