ชื่อกระทู้: สู้ไม่ไหวก็หลบ
ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 31-03-2010, 09:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,488 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทำไมต้องไปสู้ด้วย ? รู้ว่ากำลังไม่พอแล้วไปสู้ ก็เป็นประเภทไม่ได้ใช้ปัญญา เคยเล่าให้ฟังเรื่องบิณฑบาต ตอนนั้นยังอยู่ที่วัดท่าซุง หลวงตาวัชรชัยท่านยังบิณฑบาตสายใต้สายเดียวกันอยู่ พอมาระยะหลังท่านเห็นอาตมากับท่านสมปองยืนเป็นหลักที่สายใต้ ท่านก็ย้ายไปสายหลังวัด

คราวนี้ตอนที่บิณฑบาตสายใต้ด้วยกัน โยมเขาจะดักใส่บาตรที่หน้าวัดกันมาก มีโยมคนหนึ่งใส่น้ำหอมมาฟุ้งเลย อาตมาพอได้กลิ่น รู้ทันทีว่าต่อไปจะต้องคิด แล้วถ้าคิดก็จะเกิดช่องให้กิเลสเข้ามาได้ แล้วจะทำอย่างไรได้ โยมเล่นใส่น้ำหอมกลิ่นแรงขนาดนั้น ก็เลยกลั้นหายใจ แล้วกำหนดดูพี่ ๆ น้อง ๆ ตั้งแต่ต้นแถวยันท้ายแถว ทั้งหมด ๘ รูป กลั้นใจหมดแม้กระทั่งหลวงตา..!

พอเดินไปจนถึงหอฉัน เทข้าว ล้างบาตรเสร็จเรียบร้อย นั่งรอสายอื่นเขากลับมา ก็มานั่งวิเคราะห์กัน ว่าที่พวกเรากลั้นหายใจนั้นเป็นการใช้ปัญญาหรือเปล่า ? หรือเป็นการหลบหนีจากเหตุการณ์เฉพาะหน้า ? มาสรุปได้ว่าเป็นการใช้ปัญญาเฉพาะหน้า เพราะเราสู้ไม่ได้ ต้องหนีก่อน โดยเฉพาะหลวงตา ท่านบอกว่า "ไอ้ห่..ของโปรดกูเลย แชนแนล นัมเบอร์ไฟว์"

ที่ตั้งใจจะให้พวกเราเห็นก็คือ อะไรที่เกิดขึ้นให้เรานำมาวิเคราะห์ หาสาเหตุ ตรงนี้เรียกว่า ธัมมวิจยะ คือ การแยกแยะในธรรม หาสาเหตุว่า เราแพ้เพราะเหตุใด ? เราจะได้เลี่ยงจากจุดนั้น หาสาเหตุว่า รัก โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นได้อย่างไร? เราจะได้ไม่ไปสร้างเหตุนั้น ถ้าเราตัดตั้งแต่ต้นเหตุ ทุกอย่างก็จะจบ


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2014 เมื่อ 07:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 105 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา