วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดโพธิ์ผักไห่ หมู่ที่ ๔ ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมพิธีสมโภชพระพิชัยสงคราม ซึ่งพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ได้ทำการสร้างขึ้นมาตามตำราโบราณ ซึ่งผู้ที่ถ่ายทอดตำรามานี้ก็คือพระครูสมุห์อภิสิทธิ์ อภิญาโณ วัดยานนาวา ซึ่งก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้สั่งเอาไว้ว่า "ต้องนิมนต์หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน มาแผ่เมตตาในงานทุกครั้ง เพื่อให้งานนี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์"
กระผม/อาตมภาพพิจารณาแล้วว่า การที่ท่านสั่งเอาไว้เช่นนั้นก็เพราะว่า กระผม/อาตมภาพนั้นมาสายบวกนั่นเอง คำว่า "สายบวก" ในที่นี้ก็คือ เกิดมาเป็นทหารทุกชาติ นี่คือสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านได้เมตตาบอกกล่าวเอาไว้ด้วย
เมื่อกระผม/อาตมภาพได้รับนิมิตกี่ครั้งก็เห็นว่าตนเองเป็นทหาร ถ้าไม่ใช่รบราฆ่าฟันกับผู้อื่น ก็รบราฆ่าฟันกันเอง..! เนื่องเพราะว่าสมัยนั้นมีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันในวงราชการ พวกใครพวกมัน สายใครสายมันอยู่เหมือนกัน ถ้าหากว่าต้องออกรบเพื่อประเทศชาติ ก็มีการร่วมมือกันชั่วครั้งชั่วคราว ครั้นสิ้นอริราชศัตรูแล้วก็มาฟาดฟันกันเอง เห็นดังนั้นแล้ว บางทีก็เกิดความสลดใจเป็นอย่างมาก..!
ในเมื่อการสร้างพระพิชัยสงครามนั้น พระครูสมุห์อภิสิทธิ์ท่านได้มีคำสั่งเอาไว้เช่นนี้ ทุกครั้งที่มีงานสมโภชพระพิชัยสงครามตามตำรานี้ กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปทำหน้าที่กึ่ง ๆ ประธานในงาน แล้วในพิธีสมโภชก็ยังมีพิธีบูชาเทวดานพเคราะห์อีกด้วย บุคคลที่เกิดภายใน ๗ วัน ตลอดจนกระทั่งผู้ที่ไม่รู้วันเกิด ซึ่งใช้ดาวพระเกตุเป็นหลัก สามารถที่จะไปเข้าร่วมพิธีเพื่อเสริมศิริมงคลกันได้ แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ต้องหาข้อมูลกันเองว่า ทางวัดโพธิ์ผักไห่นั้นจัดงานขึ้นในช่วงไหนบ้าง ?
กระผม/อาตมภาพไปถึงได้ไม่นาน ท่านพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณก็ดี บรรดาคณะศิษย์ก็ตาม ได้นิมนต์ให้ไปปล่อยพันธุ์ปลา ๕,๐๐๐ ตัว ลงสู่แม่น้ำน้อยหน้าวัดก่อน หลังจากนั้นแล้วถึงมาทำพิธีบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย แล้วก็อธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล ที่ร่วมอยู่ในพิธีสมโภชพระพิชัยสงครามในครั้งนี้
เมื่อเป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจังหวัดของครูบาอาจารย์ ก็คือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ก็ต้องกราบอาราธนาครูบาอาจารย์มาก่อน ครั้นเมื่อกราบอาราธนาครูบาอาจารย์ของตนแล้ว ก็ขออนุญาตกราบอาราธนาครูบาอาจารย์สายจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาทั้งหมด
ปรากฏว่าผู้ที่เป็นผู้นำมาเลยก็คือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ไล่ลงมาตามลำดับ ๆ จนกระทั่งมีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคเป็นที่สุด ครูบาอาจารย์หลายองค์ก็เป็นที่คุ้นเคยกัน อย่างเช่นหลวงปู่คล้าย วัดบางนมโค หลวงปู่เล็ก วัดบางนมโค หลวงปู่อยู่ วัดบ้านแพน หลวงปู่สังข์ วัดน้ำเต้า หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด หลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2024 เมื่อ 01:47
|