ท่านใดที่คิดว่าจะศึกษาวิชานี้ ต้องใช้ความเพียรพยายามเป็นอย่างสูง ครั้งสุดท้ายที่จะถือว่าสำเร็จจริง ๆ ท่านให้ใช้ฤกษ์วันอังคาร ๙ ค่ำ โดยเฉพาะถ้าเป็นข้างแรมได้ยิ่งดี ให้เข้าไปในป่าช้า หาศพที่ตายวันเสาร์หรือว่าวันอังคาร เสร็จแล้วก็พยายามกำหนดดูว่าศีรษะอยู่ทางด้านไหน แล้วเอากระดาษรองไว้ใต้โลง ถ้าสามารถตบนะ ปัดตลอดทะลุโลง ทะลุผ่านศีรษะศพ ทะลุพื้นโลงลงไปที่กระดาษได้ เขาถึงเชื่อว่าสำเร็จได้อย่างแท้จริง..!
บุคคลที่สำเร็จวิชานี้ที่กระผม/อาตมภาพเห็นอย่างชัดเจนก็คือหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี หรือในสมณศักดิ์ที่พระราชสังวราภิมณฑ์ ท่านไม่สามารถที่จะขึ้นไปเจิมบ้านให้กับญาติโยมได้ เนื่องเพราะว่าอายุของท่านตอนนั้นก็ ๙๐ ปีแล้ว ท่านก็เลยใช้วิธีวางแผ่นทองเอาไว้ในมือ แล้วตบหลังมือ แผ่นทองนั้นก็ลอยขึ้นไปติดที่ขอบประตูด้านบน ญาติโยมที่ไม่เกรงใจคนแก่ เตรียมบันไดเอาไว้ให้เจิม ถึงกับตะลึงไปตาม ๆ กัน..!
วิชาเหล่านี้จะใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไรก็ได้ แต่ขอให้ทำสำเร็จก่อน จากนั้นก็อธิษฐานตามอัธยาศัย ถ้าตามหลักวิชาจริง ๆ นั้นเป็นการแคล้วคลาด แต่ลิเกหอมหวลกลับอธิษฐานใช้ทางเมตตามหานิยม ถึงเวลาแล้ว มีคนแห่มาดูลิเกกันมืดฟ้ามัวดิน..!
ท่านใดต้องการจะศึกษา ก็ลองว่ากันตามตำราดู ถ้าทำของยากได้สำเร็จ ของง่ายก็จะสามารถทำได้ง่ายเช่นกัน โดยเฉพาะเป็นการเจริญสมาธิภาวนา ถ้าหากว่าสมาธิทรงตัวเมื่อไร ท่านจะเข้าถึงปัญญา เพื่อที่จะตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานได้ง่ายขึ้นในภายหลัง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-11-2024 เมื่อ 00:44
|