ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 12-11-2024, 21:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,220 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงเวลาความรู้ต่าง ๆ ที่ได้ฝึกฝนและจดจารเอาไว้ ก็กลายเป็นว่าพระพี่พระน้องมาขอยืมตำรากันอุตลุด ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นประโยชน์ ไม่คิดที่จะทำ ขออนุญาตออกชื่อก็คือ เมื่อกระผม/อาตมภาพเองโดนใช้ให้ทำโน่นทำนี่มาก ๆ เข้า ก็เกิดอารมณ์ฉิวขึ้นมาตามประสาพระใหม่พรรษาน้อย บ่นว่า "พี่ ๆ อยู่กับหลวงพ่อมากันเป็น ๑๐ พรรษา ไม่ฝึกอะไรไว้บ้างเลยหรือ ?" หลวงพ่อโอ (พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) ตอบแบบหน้าตาเฉยว่า "เป็นแล้วมันเหนื่อย..!"

เมื่อถึงเวลาสิ้นหลวงพ่อลงอย่างกะทันหัน ท่านแรกที่มาขอยืมตำราเลยก็คือหลวงพ่อชัยวัฒน์ ที่กระผม/อาตมภาพเรียกว่าหลวงพี่ชัยวัฒน์ ซึ่งหลวงพ่อชัยวัฒน์ อชิโตนั้น ท่านเป็นพระรูปแรกของวัดท่าซุง ซึ่งเก็บข้อมูลต่าง ๆ เป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ ในสมัยนั้นต้องบอกว่าท่านทันสมัยที่สุด เนื่องเพราะว่ายุคนั้นยังเป็นการใช้เวิร์ดจุฬา ซึ่งเป็นตัวหนังสือสีเขียวค่อนข้างจะเรืองแสง ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์สอดเข้าไปเพื่อจะเดินเครื่องเปิดเครื่อง แล้วถึงจะสามารถลงข้อมูลได้

กระผม/อาตมภาพเองไม่มีโอกาสที่จะไปเรียน เนื่องเพราะว่าติดภาระต้องเฝ้าหน้าตึกให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านวันละ ๖ ชั่วโมง ก็คือถ้าไม่ใช่ ๖ โมงเช้าถึงเที่ยง ก็จะเป็นเที่ยงถึง ๖ โมงเย็น ยังโชคดีที่ท่านพระครูปลัดสิทธิ์วัฒน์ คือ หลวงพ่อสมปอง สุธมฺมสนฺตจิตฺโต ท่านไปเรียนแล้วก็ยังเมตตามาบอก

แต่บอกแบบเหมือนกับไม่เต็มใจสอน หรือจะเป็นเพราะท่านมั่นใจว่ากระผม/อาตมภาพความจำดีก็ไม่แน่ เพราะท่านจะมาบอกว่า เสียบปลั๊กอย่างนี้ กดปุ่มเปิดเครื่องตรงนี้ เมื่อเดินเครื่องแล้ว ก็เสียบฮาร์ดดิสก์เข้าไป ลงโปรแกรมแบบนี้ แล้วก็เปิดขึ้นมาใช้งานอย่างนี้ รวมเวลาที่ท่านบอกทั้งหมดไม่ถึง ๑๕ นาที แล้วก็ไม่โผล่มาให้เห็นหน้าอีกเลย..!

กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นบุคคลที่ค่อนข้างจะบ้า เนื่องเพราะว่าตั้งแต่สมัยที่เรียนวิชาทหารอยู่ ตอนนั้นเป็นปีแรกที่ปืนต่อสู้อากาศยานเข้าไปสู่หน่วยทหารราบ เมื่อกระผม/อาตมภาพสามารถทำคะแนนเต็มได้ทุกวิชา ครูฝึกซึ่งเป็นช่างอาวุธ จึงได้นำเอา ปตอ. ซึ่งความจริงแล้วก็คือปืนกลหนัก ๙๓ ที่มีขนาดกระสุน .๕๐ นิ้วนั่นเอง เพียงแต่ว่าเมื่อนำมาเป็นปืนต่อสู้อากาศยาน ก็พอที่จะใช้งานได้แบบกล้อมแกล้มอยู่บ้าง

ครูฝึกท่านก็อ่านตำรา โดยที่ให้กระผม/อาตมภาพเป็นผู้ถอดประกอบ โดยที่ขู่เอาไว้ว่า "ใส่คืนให้ได้นะมึง ไม่อย่างนั้นกูจะซ่อมให้อานเลย..!" กระผม/อาตมภาพนั้นคิดในใจว่า "ไม่ใช่ของพ่อของแม่กู ทำไมกูจะต้องกลัวมันพังด้วย..!" ว่าแล้วก็รื้อกระจายไปเลย เพียงแต่ว่าวิชาอาวุธศึกษานั้นมีหลักการง่าย ๆ ว่า "อะไรที่ถอดก่อนให้ใส่ทีหลัง อะไรที่ถอดทีหลังให้ใส่ก่อน"

กระผม/อาตมภาพจึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการถอดประกอบปืนกลหนัก ๙๓ เมื่อถึงเวลาก็เลยโดนครูฝึกท่านลากไปตามหน่วยต่าง ๆ ที่รับเอาอาวุธชนิดนี้เข้าไปประจำการ ไปทำหน้าที่เป็นครูสอนในการถอดประกอบให้เขา ช่วงนั้นต้องบอกว่าได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วก็คือ เพิ่งจะเคยเห็นอาวุธหนักชนิดนี้เป็นครั้งแรกกันแทบทุกคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-11-2024 เมื่อ 00:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา