ความจริงวัตถุมงคลรุ่นนั้น ท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นผู้นำกระผม/อาตมภาพไปเสกเอง..! แล้วท่านก็ยืนเฝ้าอยู่ข้างประตูโบสถ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ยังสงสัยว่ามีอะไรพิเศษหรือเปล่า ? แต่ไม่เห็นท่านพูดอะไร เพราะว่าโดยปกติแล้วการเสกวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านแนะนำว่า ให้เอามหาลาภ มหานิยมนำหน้า เพื่อความสะดวกในการทำมาหากินของญาติโยม พวกคงกระพันมหาอุดซุกเอาไว้ข้างในก็พอ เอาไว้ใช้ตอนจำเป็น
กราบเรียนถามท่านว่า "ทำไมไม่สามารถที่จะใช้คงกระพันมหาอุดนำหน้าครับ ?" ท่านบอกว่า "พวกแกกำลังใจเกินคน ถ้าได้ของที่ยิงไม่ออกจริง ๆ ไป ก็จะกลายเป็นโจรกันหมด..!"
แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมวัตถุมงคลรุ่นนั้นถึงได้พิเศษ ทางวัดท่าขนุนได้รับมาส่วนหนึ่ง จากการที่ท่านอาจารย์พระมหาธวัชชัย ถวายให้กับพระเกจิอาจารย์ผู้เข้าเสกในพิธี ก็ไม่เห็นพวกเราจะสนใจบูชาสักเท่าไร เพราะว่าไม่ใช่ของวัดท่าขนุนโดยตรง คนที่ได้ไปก็ถือว่าโชคดี ได้ของดีราคาถูกไป ใครที่บอกว่า "พุทธคุณในวัตถุมงคลไม่มี" ให้ไปถามลูกศิษย์หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอบ้านโป่งดูก็แล้วกันว่ามีหรือไม่ ?
เรื่องพวกนี้เราไม่เสียเวลาไปเถียงกัน เพราะว่าประสบการณ์มีมากมาย ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครทหารพราน ที่ลงไปทำงานอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นอย่างไร สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ชายแดน เขาใช้คำพูดว่า "ทหาร ๑ กองร้อย พระเครื่องไปด้วย ๑ กองพล" ถ้าไม่มีพุทธคุณจริง ก็คงจะไม่มีใครเขาพกไปมากมายขนาดนั้น เสียอยู่อย่างเดียวว่า ถึงเวลามีประสบการณ์แล้ว แยกไม่ออกว่าหลวงพ่อรูปไหนช่วย..!? นั่นเป็นปัญหาของท่านไปก็แล้วกัน
คราวนี้ในเรื่องของวัตถุมงคล ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติธรรมอยู่ กระผม/อาตมภาพได้แนะนำให้อยู่ตลอดเวลาแล้วว่า การปลุกตัวเอง เสกตัวเอง หรือเสกวัตถุมงคล ก็คือการกำหนดใจขอบารมีพระท่านครอบลงไป ต้องการจุดกว้างใหญ่แค่ไหนก็กำหนดใจเอาตามอัธยาศัย เพราะว่าถ้าซักซ้อมจนคล่องตัวแล้ว เราสามารถที่จะครอบโลกทั้งโลกไว้ภายในพริบตาเดียวเท่านั้น แล้วทางสายหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านแนะนำมา ก็เหมาะกับคนขี้เกียจอย่างกระผม/อาตมภาพมาก ก็คือกราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปเสกเอง..!
กระผม/อาตมภาพเสกวัตถุมงคลร่วมกับหลวงพ่อเสงี่ยม (พระครูพิศาลวิริยกิจ - เสงี่ยม สุธมฺโม) วัดบ้านทวน เห็นท่านใช้กำลังใจตัวเอง ถึงเวลาก็ส่งกำลังใจพุ่งมาเป็นระลอก ๆ ความรู้สึกเหมือนอย่างกับชกกระสอบทราย ก็คือกระแทกมาปั้ก ๆ ๆ ๆ เลย หรือไม่ก็หลวงปู่ชุบ (พระครูอดุลพิริยานุวัตร - ชุบ ปญฺญาวุโธ) วัดวังกระแจะ ของท่านนี่กว่าจะเสกเสร็จ เหนื่อยสาหัส เพราะว่าเรียนอะไรมาท่านก็ใส่ลงไปหมด แล้วบางทีก็เรียงลำดับก่อนหลังไม่ถูก ใส่มหาลาภเข้าไปแล้วปิดด้วยมหาอุด แล้วมหาลาภจะโผล่ออกมาได้อย่างไร ?
บางทีกระผม/อาตมภาพก็ต้องเสียเวลาไปนั่งแก้ นั่งจัด นั่งเรียงใหม่ เพราะถือว่าเขานิมนต์เราไปร่วมพิธีแล้ว ก็ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด แต่ถ้าหากว่าบางแห่งท่านนิมนต์พระเถระผู้ใหญ่ไป บางทีกระผม/อาตมภาพก็วางเฉยเหมือนกัน ก็คือท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการสงฆ์ ถ้าหากว่าทำเป็นก็ทำไป ถ้าทำไม่เป็น กระผม/อาตมภาพก็มิบังอาจ เพราะว่าเราเด็กเกินไปที่จะไปทำอะไรตัดหน้าผู้ใหญ่ขนาดนั้น ถ้าหากว่าการเสกของที่ไหนนิมนต์พระเถระผู้ใหญ่มาก ๆ ไป บางทีกระผม/อาตมภาพก็ต้องวางอุเบกขา แล้วแต่เวรแต่กรรมเหมือนกัน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2024 เมื่อ 02:40
|