วันนี้ตรงวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตอนนี้พวกเราส่วนหนึ่งได้เข้าไปอบรมก่อนสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) หรือวัดใต้ ส่วนที่เหลือใครมีภาระรับผิดชอบอะไรมาก่อน แล้วเพื่อนฝูงไม่อยู่ก็ช่วยทำหน้าที่แทนเขาไปด้วย
ส่วนบรรดานาคทั้ง ๕ ท่าน ถ้าหากว่าซักซ้อมการขานนาค ให้ใช้ความเพียรพยายามให้เต็มที่ เพราะว่าเมื่อตั้งใจมาแล้วก็ไม่อยากที่จะให้หลุดวงโคจรไป เพียงแต่ว่าพวกเราต้องเข้าใจว่า การขานนาคคือการที่เราไปร้องขอในท่ามกลางสงฆ์ว่า ให้ช่วยพิจารณายกเราขึ้นเป็นอุปสัมบันในพระพุทธศาสนาด้วย ในเมื่อเป็นการร้องขอก็ต้องว่าเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นสอนให้ แล้วขณะเดียวกันเมื่อร้องขอต่อสงฆ์ทั้งโบสถ์ ต้องเสียงดังฟังชัดให้ทุกรูปได้ยินเหมือนกันหมด ไม่ใช่กระซิบกันอยู่แค่ ๒ คนกับพระอุปัชฌาย์..!
สำหรับวันนี้ช่วงเช้า กระผม/อาตมภาพไปรับรางวัลคนดีศรีวิปัสสนาธุระ ของสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จากประวัติที่เขาอ่านให้ทราบ ก็เพิ่งจะรู้ว่าตนเองมอบเงินสนับสนุนการทำงานของส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรมสถาบันวิปัสสนาธุระ เดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท ต่อเนื่องกันมา ๓ ปีแล้ว..! ต้องบอกว่าเป็นความตั้งใจที่อยากจะให้งานทางด้านปฏิบัติธรรม ของมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่ามีนิสิตมากที่สุด เป็นไปด้วยความสะดวก ไม่ได้คิดว่าเมื่อถึงเวลาแล้วเขาจะมีรางวัลให้ด้วย
ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมวัชรธีราจารย์, ศ., ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เจอหน้าท่านก็ถามว่า "ท่านพระครูออกมาแต่มืดเลยหรือ ?" เนื่องเพราะว่าถ้าวิ่งจากวัดท่าขนุนไป มจร.วังน้อย จะใช้เวลา ๕ ชั่วโมง กราบเรียนท่านไปว่า "กระผมกลับมาจากศรีลังกา แล้วมีงานต่อเนื่อง ยังไม่ได้กลับวัด รอรับรางวัลก่อนแล้วถึงจะกลับขอรับ"
เมื่อรับรางวัลเสร็จก็รีบวิ่งกลับมาจังหวัดกาญจนบุรี เพราะว่าวันนี้คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิเป็นเจ้าภาพ ถวายภัตตาหารเพลแก่ผู้เข้าอบรมนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกก่อนสอบ แต่ดูแล้วอย่างไรก็มาไม่ทัน จึงได้แวะเข้าไปที่สนามอบรมแห่งที่ ๒ ที่วัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร นำปัจจัยไปถวายพระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ. ๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ประธานสนามอบรมแห่งที่ ๒ หลวงพ่อเจ้าคุณท่านก็เลยประกาศให้ญาติโยมรู้ว่า "นี่แหละคือหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ซึ่งเสกเหรียญให้กับพระมหาธวัชชัย กลฺยาโณ ป.ธ. ๙ เจ้าคณะอำเภอพนมทวน แล้วมีคนเอาไปทดลองยิงเท่าไรก็ยิงไม่ออก..!"
กระผม/อาตมภาพสงสัยจึงได้กราบเรียนถามว่า "เรื่องอะไรกันครับ ?" ท่านเล่าให้ฟังว่า วัตถุมงคลรุ่นที่กระผม/อาตมภาพไปเสกให้ที่วัดพังตรุ มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอบ้านโป่งสงสัยว่าดีแค่ไหน ? ก็เลยเอาไปทดลองยิงดู ปรากฏว่ายิงเท่าไรก็ยิงไม่ออก จึงกราบเรียนท่านไปว่า "พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเคยบอกว่า การเอาพระเครื่องไปทดลองเป็นการปรามาสพระรัตรตรัย มีโทษมากนะครับ" หลวงพ่อเจ้าคุณทองดำท่านบอกว่า "ก่อนทดลองเขากราบขอขมาพระแล้ว" ก็เป็นอันว่าเจ๊ากันพอดี..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2025 เมื่อ 17:54
|