จนกระทั่งประมาณ ๘ โมงกว่า กระผม/อาตมภาพพาทุกคนเดินไปยังประตู R3 ไปถึงก็ทำการเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ให้เขาตรวจสอบ โดยที่ตัวเองซึ่งพกพระเลี่ยมทอง ๓ องค์เดินผ่านเข้าไปโดยไม่มีเสียงสักแอะเดียว..! เจ้าหน้าที่ชายของสนามบินก็ให้เกียรติพระมาก ปกติแล้วถึงไม่มีเสียงดัง เขาก็จะค้นตัว แต่นี่ไม่มีการค้นเลย เมื่อกระผม/อาตมภาพจะเดินไปให้ ตม.เขาประทับตรา เพื่อออกจากประเทศศรีลังกา ปรากฏว่าเขาบอกว่าเปลี่ยนจาก R3 ไปเป็นประตู R5 อีกแล้ว ทำเอาเซ็งกันไปตาม ๆ กัน
เมื่อเข้าไปถึงทางด้านใน พวกเรานั่งรอกันอยู่เนิ่นนานกว่าที่เขาจะมานิมนต์ไปขึ้นรถ เพื่อที่จะไปส่งที่เครื่องบิน ตั้งแต่แรกก็คุยกันว่าจะอัพเกรดตั๋วให้หลวงพ่อพระครูวิสาลบุญสถิต รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย หลวงพ่อเจ้าคุณพระวชิรปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง และตัวอาตมภาพไปอยู่ชั้นธุรกิจ แต่ปรากฏว่ามีที่ว่างแค่ ๒ ที่ กระผม/อาตมภาพจึงต้องมานั่งที่ชั้นประหยัดแทน
เครื่องขึ้นตรงเวลา ๐๙.๔๕ น. ของทางประเทศศรีลังกา ทำการบินมาโดยที่เจ้าหน้าที่นำอาหารกลางวันมามอบให้ โดยถามว่า "จะเอาปลาหรือว่าไก่ ?" เมื่อบอกไปว่า "ไก่" เปิดออกมาแล้วก็งงมากว่าไก่อยู่ตรงไหน ? เพราะว่าไก่ที่มานั้นเป็นไก่ทั้งตัวเลย ก็คือเป็นไข่เจียวออมเล็ต กระผม/อาตมภาพก็ยังขำอยู่ในใจว่า "ไก่ของคุณโตไม่ทัน ?" ฉันเพลเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งอ่านหนังสือเพื่อไม่ให้เสียสถิติที่ตั้งใจว่า "จะต้องอ่านหนังสือให้ได้วันละเล่ม" แล้วก็คุยเรื่องสัพเพเหระต่าง ๆ ด้วยกัน
จนกระทั่งเครื่องลงแตะสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิในเวลาประมาณ ๑๔.๔๐ น. ของบ้านเรา เดินไปทำพิธีตรวจคนเข้าเมืองเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มอบให้ไอ้ตัวเล็ก นำเอาลูกอ้วน (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) ไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อจะส่งกลับวัดท่าขนุน โดยมีคุณปราโมทย์ นนทารักษ์ ซึ่งจะไปลงที่ ม.มหิดล (ไทรโยค) อาสาไปส่งให้
เนื่องจากว่ากระผม/อาตมภาพนั้นมีภารกิจต่อเนื่องอีกหลายวัน แล้วไปขึ้นรถที่คุณปิง (นายณัฐภาคย์ องค์วรวิทย์) นำมารอรับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน เจ้านายของตน พร้อมกับกระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก วิ่งกลับไปยังวัดอุทยาน เมื่อไปถึงก็ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนก่อน หลังจากนี้ก็จะไปลอกคราบตัวเองและซักผ้าซักผ่อนที่หมกมาหลายวันเสียที
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2024 เมื่อ 03:38
|