วันนี้ตรงวันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อวานนี้ พวกเราวิ่งออกจากร้านขายใบชา ฝ่าฝนที่พรำอยู่ตลอดทาง เพื่อไปยังกรุงโคลอมโบ เมืองหลวงของประเทศศรีลังกา มีการแวะเข้าห้องน้ำในระหว่างทาง ซึ่งการแวะแต่ละครั้งมักจะทำให้คิดถึงเมืองไทยเป็นอย่างมาก
เนื่องเพราะว่าบ้านเราไม่ว่าสถานีบริการน้ำมันที่ไหน ก็ล้วนแล้วแต่มีห้องน้ำทั้งสิ้น แต่ว่าทางศรีลังกานี้ต้องเป็นร้านอาหารที่ใหญ่โตพอเพียง ถึงจะมีห้องน้ำไว้บริการลูกค้า และที่สำคัญก็คือ มักจะมีแค่ผู้หญิง ๒ ห้อง ผู้ชาย ๒ ห้องเท่านั้น แล้วการที่คนเป็นร้อยต้องไปรอเข้าคิว ก็ทำให้พวกเราต้องเสียเวลาในแต่ละครั้งไปนานมาก
ทั้ง ๆ ที่ตำรวจจราจรก็พาพวกเราลุยแหลก บางทีก็นำฝ่าไฟแดงไปต่อหน้าต่อตา ขนาดนั้นก็ยังมีรถยนต์หลายต่อหลายคัน ที่คิดจะอาศัยเกาะขบวนไปด้วย แทรกกลางเข้ามาโดยที่ไม่พยายามจะหลบจะหลีก บางทีพลขับของเรารำคาญขึ้นมา หาจังหวะแซงได้ก็เบียดไปอย่างชนิดที่ไม่ต้องเกรงใจว่าจะกระแทกกันหรือเปล่า..! ทำเอาพวกเราต้องจับมรณานุสติไปตลอดทาง
จนกระทั่งประมาณทุ่มครึ่งของประเทศศรีลังกา ตกราว ๆ ๓ ทุ่มของบ้านเรา ก็ไปถึงโรงแรม Cinnamon Red Hotel ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสีแดง สมกับคำว่า "อบเชยแดง" จริง ๆ พวกเราไปรับห้องพักที่ล็อบบี้ชั้น ๗ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่มีโอกาสเดินดู ว่าว่าชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๖ เขาทำประโยชน์อะไรบ้าง ?
เมื่อรับเอาบัตรสำหรับห้องพักมาแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องมาสอนว่า ต้องใช้บัตรนี้ปาดผ่านกล่องเล็ก ๆ ข้างลิฟท์เสียก่อน แล้วถึงจะกดหมายเลขไปยังชั้นของตนได้ บัตรของแต่ละชั้นใช้ได้เฉพาะชั้นนั้นห้องนั้นเท่านั้น ไม่สามารถที่จะใช้กับชั้นอื่นหรือห้องอื่นได้ ถือว่าเป็นความปลอดภัยทีเดียว แต่น่าเป็นห่วงตรงที่ว่าหากไฟฟ้าดับขึ้นมา ยังไม่ทราบว่าจะโกลาหลอลหม่านขนาดไหน..?!
จากชั้น ๗ กระผม/อาตมภาพต้องขึ้นไปยังห้องพักที่ชั้น ๒๒ แต่ก็ไม่กล้าที่จะนอน เนื่องเพราะว่าถ้าหลับอาจจะยาวไปเลย จึงใช้วิธีนอนภาวนา จนกระทั่งตี ๒ ค่อยไปสรงน้ำสรงท่า แต่งตัวใหม่จนเรียบร้อยแล้วลงมาทำการคืนห้อง แต่ว่าเจ้าหน้าที่รับบัตรที่ชั้น ๗ แล้วตัวเราต้องลงมารอรถที่ชั้น ๑ ซึ่งไม่มีเก้าอี้แม้แต่ตัวเดียวที่จะให้กับแขกเลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชายท่านหนึ่งทนไม่ไหว เปิดเข้าไปในสำนักงานด้านข้าง แล้วเข็นเอาเก้าอี้สำนักงานมา ๑ ตัว ให้กระผม/อาตมภาพได้นั่ง..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2024 เมื่อ 03:28
|