พวกเราคณะใหญ่จนเกินไป เมื่อลงมาแล้วยืนรอกันอยู่ จึงทำให้ไปปิดทางเข้าของบรรดาญาติโยมชาวศรีลังกา ที่พอค่ำลงก็แห่กันมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้ว พร้อมกับสวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชากันมากมาย กระผม/อาตมภาพจึงชวนคณะให้ทยอยกันเดินออกมาทางด้านนอกก่อน มาถ่ายรูปกับหอสังเกตการณ์ทางด้านนอก ซึ่งตอนนี้เปิดไฟสว่างไสวเป็นพิเศษ
เมื่อน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ออกมาแล้ว ปรากฏว่าลูกอ้วน (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) หายไป โทรศัพท์เข้าไปถามแล้ว ไอ้ตัวเล็กช่วยดูแลอยู่ และโดนเจ้าหน้าที่ต้อนไปดูวิวอยู่ทางด้านบน คาดว่าจะหวังรางวัลจาก "มาดาม" อีกตามเคย จึงได้บอกให้ทั้งสองคนรีบออกมาข้างนอก ถ่ายรูปบริเวณหน้าหอสังเกตการณ์แล้ว ก็เดินตรงกลับออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าประตูใหญ่
เมื่อพวกเราออกมากันครบถ้วนด้วยความปีติชื่นใจในความเมตตาของพระมหานายกะฝ่ายอัสคีรียะ และบารมีของพระบรมสารีริกธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าแต่ละคนอธิษฐานกันว่าอย่างไร แต่แซวกันอยู่ว่า "ปีที่แล้วหลวงพ่อเจ้าคุณวัดป่าประดู่ยังเป็นพระครูเจ้าคณะอำเภออยู่เลย เมื่ออธิษฐานเสร็จ ปีนี้ได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าคุณ เจ้าอาวาสพระอารามหลวงไปแล้ว" ทำเอาทุกคนเฮฮากันเป็นอย่างยิ่ง
รถบัสได้นำพวกเรามาจอดรอรถตู้และรถมินิบัสของทางโรงแรม Grand Kandyn Hotel เพื่อที่จะนำพวกเราขึ้นเขาไปยังโรงแรมที่ถนนหนทางค่อนข้างจะคับแคบ รถบัสใหญ่ไม่สามารถที่จะกลับตัวได้ถนัด พวกเรามาถึงทางด้านบน ซึ่งเป็นสถานที่กระผม/อาตมภาพคุ้นเคยมาแล้ว เพราะว่าเคยพักมาก่อน ครั้นเห็นเจ้าหน้าที่เขาว่างก็ไปขอรหัส WIFI ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่กดแล้วบอกว่า
"Connected" ก็คือเครื่องได้เชื่อมต่อเองแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ยังทึ่งว่า โทรศัพท์ตัวเองฉลาดขนาดนั้น เจอคลื่นเก่าที่คุ้นเคยก็จัดการเชื่อมต่อให้เลย..!
พวกเราได้รับกุญแจห้องแล้วก็แยกย้ายกันไป ปรากฏว่าลิฟท์แน่นมากเป็นพิเศษ เพราะว่าพวกเรามากันเป็นร้อยคน กระผม/อาตมภาพจึงเดินจากล็อบบี้ขึ้นไปจนถึงชั้น ๔ ห้องพักของตน จัดการเก็บข้าวของต่าง ๆ ซักผ้าตากเสร็จแล้ว มีเสียงเคาะประตูอีกตามเคย เปิดออกไปก็ไม่ผิดจากที่คาด ก็คือทางด้านบริกรนำเอาอาหารค่ำมาถวาย ปฏิเสธไปแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยังทำหน้าเสียใจมาก ประมาณว่าทำไมถึงไม่ฉันอาหารที่เขาอุตส่าห์ยกมาให้ถึงที่ ?
ภาษากายของทางด้านคนอินเดีย ศรีลังกานี้แสดงออกชัดเจนมากทั้งสีหน้าท่าทาง กระผม/อาตมภาพขี้เกียจบอกว่า "กูเป็นพระไทย ไม่ฉันมื้อเย็นโว้ย..!" เพราะว่าเขาอยู่กับประเทศพระพุทธศาสนา ควรที่จะรู้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้อยู่แล้ว
ทำการส่งงานเสร็จเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็มุดเข้าใต้ผ้าห่มเตรียมจะนอน มีเสียงเคาะประตูอีก คาดว่าบริกรคงจะรอกระผม/อาตมภาพเปลี่ยนใจ แต่กระผม/อาตมภาพเอาผ้าห่มอุดหูแทน แล้วนอนภาวนาส่งใจขึ้นไปกราบพระ หลับไปในเวลาอันรวดเร็ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2024 เมื่อ 03:23
|