เมื่อกลับขึ้นมาก็ได้เวลาห้องอาหารเปิดพอดี จึงเข้าไปตักอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วออกไปทางมังสวิรัติมานั่งฉัน จวนจะอิ่มแล้ว พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน และหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร จึงมานั่งร่วมโต๊ะด้วย
กระผม/อาตมภาพฉันอิ่มแล้ว จึงเดินไปหาที่นั่งด้านนอก เพื่อรอรับศรัทธาญาติโยมที่คอยมาทำบุญทุกเช้า ตั้งใจว่าจะให้นับเงินเอาไว้เพื่อทำบุญกฐินของวัดศักติสัทธรรมในวันนี้ แต่ปรากฏว่าผู้นับเงินก็คือน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) มัวแต่ปฏิสันถารกับพรรคพวกเพื่อนฝูงอยู่ ครั้นจะไปขัดคอ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นว่าไม่รู้กาลเทศะ จึงได้แต่เก็บเงินเอาไว้ก่อน
เห็นว่าใกล้เวลาเดินทางแล้ว แต่ว่ารถบัสยังไม่มา กระผม/อาตมภาพจึงเดินออกไปหาทางด้านนอก แล้วก็เจอว่านัดเดินทาง ๘ โมงเช้า แต่ว่า ๗ โมง ๕๐ นาทีแล้ว รถบัสยังจอดอยู่ที่ลานจอดรถด้านนอก จึงให้ตำรวจที่มาคอยนำทางลงไปเรียก รถบัสถึงได้ขึ้นมา ทำให้การเดินทางนั้นช้าไปประมาณ ๗ นาที..!
พวกเรามุ่งตรงไปยังเมือง ซึ่งบางคนเรียกว่าเมืองกุรุแนแกละ ซึ่งบางคนเรียกว่ากุรุเนกะละ ซึ่งก็คือเมืองเดียวกัน เพื่อที่จะไปยังวัดศักติสัทธรรมที่นั่น มีการจอดแวะกลางทางเพื่อให้เข้าห้องน้ำด้วย แต่ว่าร้านอาหารทั้งร้านมีห้องน้ำผู้หญิงอยู่ ๒ ห้อง ห้องน้ำผู้ชายอยู่ ๒ ห้อง ต้องมารองรับคนจำนวน ๑๒๓ คน ทำให้เสียเวลาไปค่อนข้างจะมาก..!
ครั้นเดินทางไปก่อนที่จะถึงวัดศักติสัทธรรมประมาณ ๑ กิโลเมตร ทางเจ้าภาพก็ส่งคณะมารอรับที่นั่น เด็ก ๆ เอาพวงมาลัยมาคล้องให้แขกบ้านแขกเมือง ส่วนบรรดาอุบาสกก็ถือร่ม หรือว่ากลดสีเหลืองมารับพระ โดยมีนาฏยกรซึ่งเป็นคณะการแสดงถวายให้กับพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วเมืองแคนดี้ มาทำการแสดงเพื่อนำพวกเราเข้าไปยังวัดด้วย
ครั้นไปถึงวัดก็ได้เวลาเพลพอดี กระผม/อาตมภาพหลังจากถวายสักการะพระประธานในวิหารแล้ว ก็นำญาติโยมทั้งหลายไหว้พระ แล้วไปนั่งรอฉันเพล แต่ว่าทางด้านเจ้าภาพอาจจะนัดเวลากันผิดพลาด จึงทำให้อาหารมาช้า กระผม/อาตมภาพต้องไปแสดงตัวให้กับทั้งพระและญาติโยมทางด้านนี้ ได้รู้จักว่าเป็นใคร ? มาจากไหน ? ถึงได้บังอาจเป็นเจ้าภาพมานำกฐินทอดให้ที่นี่..! แล้วค่อยลงไปฉันเพล ซึ่งเป็นอาหารที่พวกเราขนมาเองกันเป็นส่วนใหญ่ โดยที่กระผม/อาตมภาพเองนั้นไม่ค่อยที่จะสนใจอาหารไทย เนื่องเพราะว่าไปที่ไหนก็ฉันอาหารของทางเจ้าภาพเขาทั้งสิ้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2024 เมื่อ 03:22
|