วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เดือนตุลาอาถรรพ์ผ่านไปแล้ว แต่อาถรรพ์ยังไม่พ้นไป ขอท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมด้วยเถิด..! เปิดหัวขึ้นมาก็ทำเอาตกอกตกใจกันไปตามระเบียบ
ความจริงเรื่องที่กระผม/อาตมภาพอยากจะพูดถึงก็คือ การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ซึ่งเป็นการประชุมทั้งคณะกรรมการบริหารกลาง คณะกรรมการขับเคลื่อนประจำหนทั้ง ๔ หน ตลอดจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ครั้งที่ ๔/๒๕๖๗
ปรากฏว่ามีเรื่องหนึ่งซึ่งทางคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนใต้ นำโดยท่านเจ้าคุณชรัช - พระราชวัชรญาณโมลี, ดร.(ชรัช อุชุจาโร ป.ธ. ๖) รองเจ้าคณะภาค ๑๘ เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร (พระอารามหลวง) ซึ่งเป็นเพื่อนกับกระผม/อาตมภาพมาน่าจะเกิน ๓๐ ปีแล้ว ท่านบอกว่าการดำเนินโครงการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบของภาคใต้ หรือว่าหนใต้นั้น มีนักศึกษาซึ่งท่านทำงานเกี่ยวกับชุมชน ทำวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาโท ขอเข้าไปร่วมสังเกตการณ์เพื่อนำเอาข้อมูลไปใส่ไว้ในวิทยานิพนธ์ด้วย
ทางนักศึกษานั้นได้ให้ข้อคิดไว้ว่า "การที่คณะกรรมการขับเคลื่อนซึ่งล้วนแต่เป็นพระทั้งหมด เมื่อถึงเวลาประกอบพิธีต่าง ๆ ตามขั้นตอนที่ได้วางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการนำสวดมนต์ไหว้พระ การอาราธนาศีล การเปิดกรวยถวายราชสักการะ การร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี การที่พระเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล และพิธีกรรมต่าง ๆ นั้น กินระยะเวลาที่ยาวนานมาก ทำให้การตรวจประเมินนั้นมีเวลาน้อย ทำอย่างไรที่จะรวบรัดพิธีกรรมทั้งหมดให้เสร็จสิ้นลงภายในไม่เกิน ๓๐ นาที ?"
ซึ่งตรงนี้พวกกระผม/อาตมภาพที่ทำงานมาล้วนแล้วแต่เห็นด้วยทั้งสิ้น โดยเฉพาะการที่เราท่านทั้งหลายตรวจประเมินในช่วงเช้านั้น เวลาจะมีน้อยมาก เพราะว่าจะติดด้วยการต้องฉันเพลของกรรมการที่เป็นพระภิกษุทั้งหมด
ประการต่อไปก็คือ นักศึกษาท่านนั้นให้ข้อสังเกตว่า "พระที่เป็นกรรมการขับเคลื่อนนั้น ตั้งคำถามกับบรรดาส่วนราชการแทบทั้งสิ้น ก็คือบรรดาผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือว่าเทศมนตรี เป็นต้น ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับสั่งการ ส่วนระดับดำเนินการนั้นมักจะเป็นชาวบ้านทั่ว ๆ ไป อย่างดีก็แค่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แล้วผู้ที่ทำงานให้สำเร็จลงก็คือชาวบ้านระดับรากหญ้าตาดำ ๆ นั่นเอง ซึ่งเป็นผู้ที่รู้ปัญหาดีที่สุด แต่ไม่เคยได้รับการถามคำถามเลย ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2024 เมื่อ 01:50
|