หลวงตาให้อภัยทุกคน
วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เวลา ๐๙.๓๐ น. เจ้าคุณพระราชเมธากร (เจ้าคุณปาน) เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) พร้อมด้วยคณะเดินทางมาเยี่ยมอาการอาพาธขององค์หลวงตาที่กุฏิ ซึ่งลูกศิษย์ได้ช่วยกันรักษาแบบพื้นบ้าน
คือ "ย่าง" หรือ "ตั้งยา" สมุนไพรร่วมกับหมอชาวจีน ที่มีความชํานาญในด้านการรักษา ไหล่ขวาของท่านมีรอยช้ำเป็นบริเวณกว้าง แต่องค์หลวงตายังมีอาการปกติ และได้เทศน์โปรดท่านเจ้าคุณพระราชเมธากร ในขณะที่นอนรักษาไหล่ขวาอยู่ว่า
"นี่ท่านเจ้าคุณ ผมเป็นมาแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ แต่ละครั้งหนักทั้งนั้น
ครั้งแรก ป่วยเป็นไข้เจ็บขัดในหัวอก ชาวบ้านตายวันละ ๗ - ๘ คน เป็นโรคติดต่อ เป็นหนักที่บ้านกาหม - โพนทอง อำเภอบ้านผือ ติดต่อกับอำเภอท่าบ่อ มีแม่น้ำทอนเป็นเขตแดน ต้นปี ๒๔๙๓ นึกว่าจะตายแล้ว แต่ก็ไม่ตาย
ครั้งที่สอง เป็นโรคท้องร่วงถ่ายติดต่อกัน ๒๕ ครั้ง อาเจียนอย่างรุนแรง ๒ หน ร่างกายตายไปแล้ว ๙๙% เหลือเพียง ๑% ก็นึกว่าคงตายแน่ แต่ก็อยู่รอดมาได้
พอครั้งที่สาม คือครั้งนี้ ก็ไม่เห็นมันเป็นอะไร มันเป็นเรื่องของกรรมนะท่านเจ้าคุณ
เรากําลังจะรับบริจาคดอลลาร์ช่วยชาติ ก็มาเป็นอย่างนี้ ขณะนี้ได้รับเงินบริจาค ๒ แสนดอลลาร์เศษแล้ว เพราะมีการป่าวประชาสัมพันธ์ไปทางทีวี หนังสือพิมพ์ คิดว่าคงจะได้เพิ่มขึ้นอีกเร็ว ๆ นี้ รวมทั้งเงินไทยด้วย ได้มาเท่าไรก็ออกไปช่วยในสิ่งที่เดือดร้อนกันหมด
โรงพยาบาลนาทม กิ่งอำเภอนาทม จังหวัดนครพนมนั้น ไม่มียา เพราะไม่มีงบประมาณ แม้แต่เงินเดือนหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รับมา ๒ - ๓ เดือนแล้ว เราต้องนําเงินที่ได้รับบริจาคไปแจกจ่ายให้ เราทำเพื่อโลกล้วน ๆ เจ็บป่วยคราวนี้คงไม่นานแล้วนะท่านเจ้าคุณฯ คิดว่าสิ้นเดือนนี้คงหาย เหลืออีกกี่วันนะ"
ท่านเจ้าคุณฯ จึงตอบว่า "อีก ๑๓ วัน ครับหลวงตา"
ต่อมาเวลา ๑๕.๐๐ น. นายวิชัย ทัศนเศรษฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี นําพุ่มพานดอกบัวมาถวาย และเยี่ยมอาการองค์หลวงตา ที่วัดป่าบ้านตาด ซึ่งองค์ท่านกล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นด้วยว่า
"การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ คิดว่าเป็นกรรมของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกรรมของคนขี่รถจักรยานยนต์ กรรมของคนขับรถ หรือแม้แต่ตัวเองก็ไม่เว้น จะไปโทษใครไม่ได้ ทุกคนมีกรรมร่วมกัน จึงต้องช่วยเหลือกัน สำหรับอาการบาดเจ็บของหลวงตาไม่มากนัก หมอก็มาดูแลแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง
เมื่อคืนที่ผ่านมาเฝือกที่ใส่ไว้มันหดแน่น ทำให้เจ็บมาก จึงต้องให้หมอถอดออก ก็ไม่มีอาการเจ็บแล้ว หมอบอกว่าไม่มีอะไรหนักใจ อีกไม่นานก็ไปรับบาตร และเทศนาได้เหมือนเดิมแล้ว ขอบอกผ่านญาติโยมทุกคนด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องเดินทางมาเยี่ยมหรอก เดี๋ยวจะตายเพราะคนแห่มาเยี่ยมมากกว่า"
แม้เจ็บปวดแขนสักเพียงใด ท่านก็ไม่บ่นไม่ว่า ไม่ติดใจถือเอาเป็นโทษเป็นความกับผู้หนึ่งผู้ใดเลย ถือเป็นคุณธรรมและเมตตาธรรมอันสูงสุดเป็นที่เคารพสักการะกราบไหว้ของศิษยานุศิษย์ได้อย่างสนิทใจ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-11-2024 เมื่อ 02:20
|