ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 31-10-2024, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อที่สองก็คือกำลังสมาธิ ดังนั้น..ในเรื่องของพระคาถาจึงเป็นเรื่องที่เราต้องภาวนา ไม่ใช่สักแต่ว่าท่องให้จบ ก็คือใช้ตัวคาถาเป็นคำภาวนาควบกับลมหายใจเข้าออก ว่าช้า ๆ แล้วตามดูลมหายใจเข้าออกไปด้วย

สมัยที่กระผม/อาตมภาพตั้งหน้าตั้งตาทำนั้น เริ่มตั้งแต่ตี ๓ ไปเลิกตอน ๑ ทุ่มทุกวัน โดยที่หยุดฉันเพลประมาณ ๑๕ นาทีเท่านั้น แล้วตอนนั้นก็ฉันมื้อเดียว ระยะเวลาขนาดนั้นได้เต็มที่ ก็คือภาวนาอย่างมีคุณภาพได้ประมาณ ๑,๒๐๐ จบ แต่ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย มาตอนหลังจึงลดลงมาให้อยู่ในระดับที่ทำงานอื่นได้ด้วย ก็อยู่ที่ ๓๐๐ จบต่อวัน ทำอยู่ประมาณ ๓ ปีต่อเนื่องกัน นับจนลูกประคำขาดไปนับครั้งไม่ถ้วน..!

ประการต่อไปก็คือ "ความจริงจัง สม่ำเสมอ" นอกจากมีทานเป็นปกติ ทรงสมาธิเป็นปกติแล้ว คาถาทุกประเภทต้องการคนที่จริงจังและสม่ำเสมอ พูดง่าย ๆ ก็คือเคยทำเท่าไร ต้องทำอย่างน้อยเท่านั้นทุกวัน ไม่ใช่วันนี้ขี้เกียจก็ว่า ๓ จบ พรุ่งนี้ขยันก็ว่า ๙ จบ ขึ้น ๆ ลง ๆ หาความแน่นอนไม่ได้

โดยเฉพาะที่กระผม/อาตมภาพกำหนดไว้ว่าให้พวกเราภาวนาอย่างน้อยวันละ ๑๐๘ จบ อันดับแรกก็คือ ถ้าภาวนานาน โอกาสที่จิตจะทรงสมาธิสูงขึ้นมีมากกว่า ประการที่สองก็คือ เวลาในการภาวนามาก โอกาสที่เราจะไปฟุ้งซ่านเรื่องอื่นก็มีน้อย และที่แน่ ๆ ก็คือ ถ้ามีกำลังใจทำแบบนั้นทุกวัน ความจริงจังสม่ำเสมอต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว


ดังนั้น..ในสิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำแล้วได้รับผลดีเป็นปกติ โดยเฉพาะช่วงไหนต้องการใช้เงินมากก็มามาก ช่วงไหนต้องการใช้เงินน้อยก็มาน้อย จนกระทั่งหลายท่านที่เหนื่อยแทน หรือว่าเกร็งแทนกระผม/อาตมภาพ ที่ว่าเฉพาะของพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนนั้น ยังค้างเขาอยู่ ๔๓ ล้านบาท..! แล้วตอนนี้มีรองรังอยู่ ๓ ล้านบาท ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปกังวล เนื่องเพราะว่าเรามีหน้าที่ทำ ทำแล้วผลจะเกิดหรือไม่เป็นเรื่องของมัน นี่คือเคล็ดลับข้อสุดท้าย ก็คือ "พระคาถาทุกบทต้องมีอุเบกขา"

เรามีหน้าที่ทำ ทำแล้วก็แล้วกัน ผลดีจะเกิดหรือไม่เกิด จะเป็นหรือไม่เป็นก็ช่าง เราทำของเราไปเรื่อย ไม่ต้องไปตั้งความหวัง ไม่ต้องไปกังวล ถ้าหากว่าทำได้ครบทุกข้อแบบนี้ ขอยืนยันว่า "แค่ทำต่อเนื่องให้ได้ ๒ เดือน ผลจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน"

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2024 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา