แต่คราวนี้ในพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ปีพุทธศักราช ๒๕๐๕ สั่งยกเลิกพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ ปี ๒๔๘๔ อย่างเดียว ไม่ได้ระบุว่าควรที่จะแต่งตั้งฐานานุกรมหรือไม่ ? ก็แปลว่าการแต่งตั้งฐานานุกรมในปัจจุบันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็คือใครที่ถือตราตั้งฐานานุกรมเจ้าคณะอำเภอ หรือว่าฐานานุกรมเจ้าคณะจังหวัด ก็แปลว่าได้รับการแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงได้เผยแพร่จดหมายเพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบโดยทั่วกัน
ยังโชคดีที่ว่าฐานานุกรมของหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร กับฐานานุกรมของครูบาหน่อแก้วฟ้า (พระครูสมุห์เจษฎา โชติปญฺโญ) ประธานที่พักสงฆ์ลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ จังหวัดนครราชสีมา เป็นฐานานุกรมของพระเทพปริยัติโสภณ ก็คือเป็นฐานานุกรมของเจ้าคุณชั้นเทพ ไม่ใช่ฐานานุกรมของเจ้าคณะจังหวัด เป็นอันว่ารอดตัวไป..!
ในเรื่องของฐานานุกรม ท่านเชื่อหรือไม่ว่า กระผม/อาตมภาพยังไม่ได้เป็นเจ้าคุณกับใครเลย แต่มีคนจองตำแหน่งฐานานุกรมมาจนล้นแล้ว..! มั่นใจกันขนาดนั้นเลยหรือ ? ก็คือแต่ละคนถ้าหากว่าเป็นฐานานุกรมของใคร ส่วนใหญ่เขาก็มองว่าเป็น "เด็ก" ของคนนั้น พูดง่าย ๆ ว่า "เอ็งจะตีหมาก็ดูหน้าเจ้าของด้วย" ถึงได้ว่ามีการวิ่งเต้นกันมาก
มีวันหนึ่งหลวงปู่ชุ้น - พระธรรมเสนานี (ชุณณห์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และอดีตเจ้าคณะจังหวัด ท่านบอกว่า "วันนี้ข้าแต่งตั้งฐานานุกรม ก็คือพระครูปลัดชั้นธรรมให้กับเจ้าอาวาสวัด....ไป ท่านใส่ซองถวายมา ข้าก็ไม่ได้สนใจ แต่ตอนที่ให้ไวยาวัจกรไปเปิดซองเพื่อที่จะลงบัญชี เขารายงานว่าท่านถวายมา ๕๐,๐๐๐ บาท..!"
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่กลืนน้ำลายเอื๊อก..! นั่นยังดีนะว่าหลวงปู่ชุ้นท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ในเมื่อเจอเข้าในลักษณะอย่างนั้น โดยที่ท่านไม่เคยเจอมาก่อน ท่านจึงเอามาเล่าให้ฟัง
พวกเราต้องเข้าใจว่าพระภิกษุสามเณรก็คือฆราวาสที่เปลี่ยนแปลงเครื่องแต่งกาย เปลี่ยนกฎเกณฑ์กติกาในการยึดถือดำเนินชีวิต เข้ามาเป็นพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่แล้วยังเป็นปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส ก็ย่อมหวังในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ต่าง ๆ เป็นปกติ แต่คราวนี้เราต้องดูขอบเขตด้วย ถ้าอย่างกระผม/อาตมภาพทุกวันนี้ก็ยังถือเหมือนเดิม ก็คือถ้าให้มาก็เต็มใจรับไว้ แต่ให้ไปดิ้นรนขอนี่ไม่เอา..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2024 เมื่อ 03:33
|