วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ มีหลายเรื่องที่น่าจะพูดถึง ก็ต้องแล้วแต่เวลาว่าจะอำนวยหรือไม่
เรื่องแรกก็คือการที่สำนักงานเลขาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า การแต่งตั้งฐานานุกรมตามตำแหน่งเจ้าคณะปกครองนั้นเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ? ปกติแล้วก่อนหน้านี้ ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอจะแต่งตั้งฐานานุกรมเพื่อเป็นผู้ช่วยงานของท่านได้ ๓ รูป ก็คือ พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา
ส่วนตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดจะแต่งตั้ง พระครูปลัด พระครูธรรมธร พระครูวินัยธร พระครูสมุห์ พระครูใบฎีกา พระสมุห์ พระใบฎีกา รวมแล้ว ๗ ตำแหน่ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควรมาก เพราะว่าตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดก็คือต้องดูแลทั้งจังหวัด อย่างของกาญจนบุรีก็มีถึง ๕๗๘ วัดและอีกกว่า ๙๐ สำนักสงฆ์ หรือว่าทองผาภูมิของเราก็มี ๕๓ วัด กับ ๒๑ สำนักสงฆ์
ปรากฏว่าทางด้านสำนักงานเลขาธิการส่งเรื่องไปตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ เพิ่งจะได้รับคำตอบกลับมาเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๗ นี่เอง ก็ใช้เวลาในการหาข้อมูลแล้วตอบกลับประมาณ ๓ เดือนกับ ๒ วัน ทางด้านสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่า การแต่งตั้งฐานานุกรมตามตำแหน่งเจ้าคณะปกครองนั้น เป็นไปตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๑ ก็คือปีพุทธศักราช ๒๔๔๕ ก็เป็นร้อยปีมาแล้ว..!
พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๑ โดนยกเลิกด้วยพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ก็คือมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ มายกเลิกในสมัยรัชกาลที่ ๘
พระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔ โดนยกเลิกด้วยมาตรา ๓ ของพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๐๕ คำว่าฉบับที่ ๑ ฉบับที่ ๒ ก็คือเป็นฉบับที่ ๑ ในรัชกาลที่ ๙ แล้วต่อมายังมีฉบับที่ ๒ อีกด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2024 เมื่อ 03:29
|