หรือแม้กระทั่งหนังสือธรรมดา ๆ ที่อิงอรประพันธ์ขึ้นมา บรรยายถึงความรักระหว่างผู้หญิงผู้ชาย ทำให้เราท่านทั้งหลายได้เห็นว่าบุคคลที่ใช้ภาษาได้อย่างเลอเลิศนั้นเป็นอย่างไร "บุหรงเอย ยูงทองล่องฟ้า สกุณาเลิศศักดิ์ ไฉนไม่เกาะคาคบเมฆ ไยแม่ลงรำแพนเกลือกดินเยี่ยงนกเปล้ากลั้วฝน เสมือนไร้ปรานีแววหางเพริศพราวล้ำค่าน้ำเพชรแห่งตัว ฯลฯ" หนุ่มสาวเขาจีบกันนะครับ คุณใช้ภาษาได้สวยขนาดนี้ไหม ?
เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมผู้เรียนบาลีประโยค ๗ - ๘ - ๙ ในปัจจุบันนี้ ไม่สามารถที่จะใช้การแต่งฉันท์ต่าง ๆ ได้เหมือนกับคนสมัยก่อน เพราะว่าประสบการณ์น้อย อับจนด้วยถ้อยคำ รวยอักษรไม่พอ..!
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส บรรยายการรบระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระมหาอุปราชว่า
หัสดินปิ่นธเรศไท้ โททรง
คือสมิทธิมาตงค์ หนึ่งอ้าง
หนึ่งคือศิริเมขล์มง คลอาสน์ มารเอย
เศียรส่ายหงายงาคว้าง ไขว่แคว้งแทงโถม
สองโจมสองจู่จ้วง บำรู
สองขัตติยสองขอชู เชิดด้ำ
กระลึงกระลอกดู ไวว่อง นักนา
ควาญขับคชแข่งค้ำ เข่นเขี้ยวในสนาม
กระผม/อาตมภาพเชื่อเลยพวกเราร้อยละ ๙๙ แปลไทยเป็นไทยไม่ออก..!
หรือไม่ก็บางทีเราได้ยินเป็นเพลง แต่ไม่รู้ว่านั่นก็คือโคลงนิราศประพาสธารทองแดง
"เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียง ไปทั้งหมู่
ตัวเดียวมาไร้คู่ เหมือนพี่อยู่ เพียงเอกา
ร่ำร่ำใจรอนรอน อกสะท้อนอ่อนใจข้า
ดวงใจไยหนีหน้า โถแก้วตา มาหมางเมิน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-10-2024 เมื่อ 02:50
|