วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันพระแรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ท่านที่เข้าพรรษาหลังก็เหลืออีก ๓ วันพระ ก็คือจะไปออกพรรษาในช่วงวันลอยกระทง ซึ่งก็คือต้องเป็นรุ่งขึ้นหลังจากลอยกระทง
ในส่วนนั้นไม่ขอกล่าวถึง ส่วนที่จะขอกล่าวถึงก็คือคำว่า "วันพระ" ซึ่งนับว่าเป็นความอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เนื่องเพราะว่าถ้าพูดกันแบบทางการ เขาเรียก "วันธรรมสวนะ" คือวันของการฟังธรรม ด้วยความที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ผู้ที่พิมพ์ปฏิทินก็เลยนำเอาพระพุทธรูปเล็ก ๆ พิมพ์ลงไปในวันที่นั้น ๆ จนกระทั่งชาวบ้านเรียกกันง่าย ๆ ติดปากว่า "วันพระ"
คราวนี้คำว่าวันพระที่กระผม/อาตมภาพบอกว่ายิ่งใหญ่มาก ก็เพราะท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานมานาน ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว สิ่งที่พระองค์ทำไว้ยังอยู่ในความทรงจำของพุทธศาสนิกชนทุกรูปทุกนาม จนกระทั่งเห็นรูปของพระองค์ท่านก็เรียกว่าวันนี้คือ "วันพระ" ซึ่งคำว่าพระมาจากบาลีว่า "วร (วะระ)" แปลว่า "ความประเสริฐ"
ในส่วนนี้เราจะเห็นได้ว่า แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะไม่ได้ต้องการให้เราแสดงความเคารพกราบไหว้ท่านโดยประการทั้งปวงก็ตาม แต่ด้วย "ความกตัญญู" คือรู้คุณของพระองค์ท่านที่มีต่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และ "กตเวทิตา" ก็คือกระทำสิ่งที่ดี ๆ ตอบ จึงมีการกราบไหว้บูชาสักการะพระองค์ท่านเป็นปกติ ซึ่งเป็นการทำตามคำสอนของพระองค์ท่านที่ว่า "ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง การบูชาบุคคลที่ควรบูชา จัดว่าเป็นอุดมมงคลอย่างยิ่ง"
เมื่อสืบทอดมาจนถึงเราท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณร ญาติโยมที่เป็นพุทธศาสนิกชนแค่มองก็จะเห็นว่า นี่คือเชื้อสายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะบุคคลที่มีสภาพจิตเปิดรับเอาเฉพาะสิ่งที่ดี ๆ เข้าไป แค่มองเห็นก็จะได้รับผลมหาศาล สมกับที่พระองค์ท่านตรัสเอาไว้อีกส่วนหนึ่งในมงคลสูตรว่า "สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง การได้เห็นสมณะคือนักบวช จัดเป็นอุดมมงคลอย่างยิ่ง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2024 เมื่อ 03:15
|