อยากจะให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นไปเบิ่งตาตี่ ๆ ดูใหม่ว่า ตอนนี้ยุโรปอเมริกายุ่งฉิบหายวายป่วงขนาดไหน..!? จะได้รู้ว่าลัทธิหรือตลอดจนกระทั่งแนวทางการเมืองที่เขายกย่องหนักหนานั้น ไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย โดยเฉพาะอเมริกา เจ้าพ่อประชาธิปไตย ขายสิทธิและเสรีภาพ กลับเป็นบุคคลที่ยึดถือว่ากำปั้นใครใหญ่กว่าคนนั้นได้เปรียบ..! ประชาธิปไตยบ้านไหนของมันก็ไม่รู้ ?
หลักการปกครองนั้นสำคัญที่สุดก็คือทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี อย่างที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแนวคิดให้กับประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน บอกว่า "ถ้าคุณทำให้ชาวบ้านอิ่มท้องได้ ประชาชนจะสนับสนุนคุณเอง" แล้วท้ายที่สุดประเทศรัสเซียก็ได้รับการพัฒนา จนกระทั่งประชาชนพอมีพอกิน ชาติตะวันตกอื่นเห็นว่าจะเป็นอันตรายแก่ตนเอง เพราะว่าเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ก็หาทางยุให้ยูเครนไปรบด้วย..!
แล้วตอนนี้ทางตะวันตกก็เห็นว่าทางเอเชียของเราสงบสุขจนเกินไป จึงหาเรื่องตั้งแต่ให้จีนกับไต้หวันทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้ญี่ปุ่นกับเกาหลีทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ทะเลาะเบาะแว้งกัน แล้วท้ายที่สุดก็ยุให้ประชากรไทยทะเลาะเบาะแว้งกัน แล้วก็เป็นเรื่องแปลกมากว่าคนพวกนี้สารพัดเรื่องฉลาดหมด แต่เรื่องแค่นี้กลับมักจะโง่ไปถนัดใจ..! ไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักพิจารณาว่า สิ่งที่ตนเองทำไปนั้นใครได้ประโยชน์ ? โดนเขาจูงจมูกใช้งานไปนับครั้งไม่ถ้วนก็ยังไม่เข็ดอีก..!
เราจะเห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรานั้นทรงค่อย ๆ ปล่อยพระราชอำนาจออกมาทีละเล็กทีละน้อย ไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการบริหาร อำนาจตุลาการ เพื่อที่ให้ประชาชนค่อย ๆ ใช้อำนาจนี้ได้อย่างถูกต้อง ถ้าปล่อยออกมาทีเดียวก็จะมีการ "เหลิง" แล้วท้ายที่สุดก็จะ "หลง" ก็คือใช้เสรีภาพแบบไม่มีขอบเขต แล้วไปล่วงสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น แต่ก็มักจะมีไอ้พวกที่อ้างว่าหัวก้าวหน้า ต่างประเทศเขาทำกันแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่โคตรพ่อโคตรแม่ของมันก็อยู่ประเทศไทยนี่เอง..! แต่จะเอาต่างประเทศเป็นตัวอย่าง ถ้าวันไหนไม่มีประเทศจะอยู่แล้วถึงจะซาบซึ้ง..!
ที่วันนี้ต้องมากล่าวเรื่องนี้ก็เพราะว่าความเสรีเริ่มปรากฏในสมัยรัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ มาเรื่อย ถึงขนาดในหลวงรัชกาลที่ ๓ ปรารภว่า "ศึกข้างพม่า ตลอดจนกระทั่งรอบบ้านของเราไม่เป็นที่หนักใจแล้ว จะมีแต่ข้างตะวันตกเท่านั้น ถ้าเราได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการของเขา ก็จะได้เอามาปรับแก้ไข เพื่อให้บ้านเราเมืองเรามีความทันสมัย ตลอดจนกระทั่งรู้เท่าทันอีกฝ่ายได้"
แม้กระทั่งองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ส่งบรรดาพระราชโอรสไปศึกษาเล่าเรียนต่างประเทศ ก็ย้ำชัดเจนว่า "อย่าได้นับถือเลื่อมใสไปทั้งหมดเสียทีเดียว" นำเอาสิ่งที่ดีกลับบ้านกลับเมืองของเรามาพัฒนาประเทศชาติ นั่นคือสายพระเนตรที่ยาวไกลมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2024 เมื่อ 02:39
|