ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-10-2024, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกลักษณะหนึ่งนั้นสมกับชื่อคำว่า "ตะกรุดใบลาน" จริง ๆ เพราะว่าเป็นใบลานที่ม้วนลักษณะเหมือนกับมวนบุหรี่ ขนาดก็ใกล้เคียงกับมวนบุหรี่ ดูแล้วเป็นตะกรุดจริง ๆ แต่เป็นตะกรุดใบลานที่โดนม้วนเข้าไปจนแน่น มัด ๒ เปลาะบ้าง ๓ เปลาะบ้าง แต่ด้วยความที่ผ่านระยะเวลามาเป็น ๑๐๐ ปีแล้ว ก็ทำให้พิสมรรูปตะกรุดนั้น บางทีเชือกที่มัดเอาไว้ก็ขาด ทำให้ใบลานที่โดนม้วนเอาไว้หลุดกระจัดกระจายก็มี..!

ดังนั้น..ตามรูปที่ท่านได้ส่งมาให้ดูนั้น ก็คือพิสมรแบบที่เขาเรียกกันว่าจักรนารายณ์ แล้วจักรนารายณ์ก็ยังมีขนาดใหญ่ขนาดเล็ก เท่าที่กระผม/อาตมภาพพบมา ขนาดใหญ่มีความใหญ่ประมาณเหรียญ ๕ บาทสมัยนี้ ขนาดเล็กมีความใหญ่ประมาณเหรียญสลึงสมัยนี้ ซึ่งขนาดนี้นับรวมเชือกที่ถักและลงรักไว้เรียบร้อยแล้ว ก็แปลว่าท่านทั้งหลายต้องดูให้รู้ว่าอายุเชือกถักที่เป็น ๑๐๐ ปีก็ดี ลักษณะของรักที่ชุบเอาไว้เพื่อรักษาใบลานก็ดี หรือว่ารักษาเชือกก็ตาม ตลอดจนกระทั่งถ้าหากว่าเป็นลักษณะตะกรุดมวนบุหรี่นั้น ท่านก็ต้องดูให้ออกว่าใบลานที่เก่าเป็น ๑๐๐ ปี ผ่านการใช้งานมานับไม่ถ้วนนั้น จะมีรูปร่างลักษณะอย่างไร จึงสามารถที่จะเสาะหาของจริงของแท้มาได้ ไม่ใช่ว่าไปหยิบไปจับส่งเดชจากที่ไหนก็เชื่อตามเขาไปเลย

เครื่องรางของขลังชิ้นต่อไปนั้น ท่านบอกว่าเป็น "ตะกรุดวิรุฬจำบัง" ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นตะกรุดวิรุฬจำบังของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม โดยที่ระบุว่าเหตุการณ์ในภาพยนตร์นั้นอยู่ประมาณพุทธศักราช ๒๕๑๐ กว่า ๆ โดยที่หลวงพ่อกวยท่านสร้างตะกรุดวิรุฬจำบังขึ้นมาประมาณพุทธศักราช ๒๕๐๕

ตรงนี้กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่าบางทีอาจจะมีผู้เข้าใจผิด จึงไปฟันธงว่าตะกรุดวิรุฬจำบัง ซึ่งมีอานุภาพในการบังตาคน แต่ตามที่เขาบอกเล่าก็คือในภาพยนตร์นั้นบังตาผีด้วย พูดง่าย ๆ ว่าทำให้หายตัวไปได้ชั่วคราว

ซึ่งวิรุฬจำบังนั้นเป็นขุนพลยักษ์ผู้หนึ่ง ที่ทศกัณฐ์ส่งไปรบกับพระราม เมื่อสู้ไม่ได้ก็หลบหนีไปซ่อนอยู่ในฟองน้ำที่มหาสมุทร แต่ด้วยความผู้ที่ตามล่าก็คือหนุมานชาญสมร ทหารเอกพระราม ท้ายที่สุดต่อให้วิชาวิรุฬจำบัง หายตัวได้ก็ดี การไปหลบซ่อนอยู่ในฟองน้ำในมหาสมุทรก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือให้วิรุฬจำบังรอดพ้นจากความตายไปได้..!

แต่วิชานี้ได้มีการสืบทอดมา ส่วนที่ชัดเจนที่สุดก็คือสืบทอดมาถึงพระยาสีหราชเดโช ทหารเอกของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเวลารบกับข้าศึก เมื่อภาวนาคาถาวิรุฬจำบังแล้ว ก็สามารถที่จะหายตัวได้อึดใจหนึ่ง พูดง่าย ๆ ว่ากลั้นหายใจเอาไว้แล้ว ถ้าไม่หายใจใหม่ คนอื่นก็จะไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็สามารถไล่ฆ่าไล่ฟันข้าศึกอยู่ฝ่ายเดียว เพราะว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็นตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-10-2024 เมื่อ 00:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา