เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ย้ำเตือนต่อพระภิกษุสงฆ์ของวัดท่าขนุนว่า การศึกษานั้นจำเป็นอย่างยิ่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้แบ่งธุระในพระพุทธศาสนาออกเป็น ๒ ส่วน คือ คันถธุระ การศึกษาซึ่งพระไตรปิฎก และ วิปัสสนาธุระ การพิจารณาธรรมจนกระทั่งรู้แจ้งเห็นจริงว่า ปกติธรรมดาของโลกนี้มีความไม่เที่ยง เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง สลายตัวไปในที่สุด มีแต่ความเป็นทุกข์ ยึดมั่นถือมั่นเมื่อไร จิตใจเราก็ร้อนรุ่มกระวนกระวายด้วยประการใดประการหนึ่ง แล้วก็แบกทุกข์หาบทุกข์เอาไว้คนเดียว บางทีก็เครียดจนนอนไม่หลับ..!
แล้วท้ายที่สุด ก็ไม่มีสิ่งหนึ่งประการใดสามารถยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ แม้แต่ภูเขาที่ว่ายิ่งใหญ่มั่นคงขนาดไหน ท้ายสุดก็ค่อย ๆ เปื่อยผุพังลง เป็นหิน เป็นทราย เป็นฝุ่นผง เป็นดิน หมดสภาพความเป็นขุนเขาอันยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า..!
ถ้าเห็นจริงตามนี้ก็ถือว่าวิปัสนนาธุระของท่านนั้น สามารถเพียงพอที่จะเอาไว้บรรเทาความทุกข์ที่เกิดขึ้นแก่ตน แต่ถ้าจิตไม่นิยมการเกิด ปลดจากการยึดเกาะทั้งปวงจริง ๆ ท่านก็จะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน สมดังที่ได้ปฏิญาณไว้ในวันบวชว่า "นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา ข้าพเจ้าขอรับผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน"
ท่านทั้งหลายลองพิจารณาดูว่า ถ้าภายในวัดของเรา ซึ่งประกอบไปด้วยพระภิกษุสงฆ์ ๔๐ กว่าเกือบ ๕๐ รูป แล้วทุกรูปไม่ศึกษาความรู้อะไร ๆ เลย รอแต่ครูบาอาจารย์หรือพระเถระมาบอก แล้วท่านได้กระทำสิ่งที่ผิดพลาด นอกจากเสียหายแก่ตนเองแล้ว ก็เสียหายต่อครูบาอาจารย์ เสียหายไปถึงวัด เสียหายไปถึงคณะสงฆ์ตำบล เสียหายไปถึงคณะสงฆ์อำเภอ เสียหายไปถึงคณะสงฆ์จังหวัด เสียหายไปถึงคณะสงฆ์ภาค ท้ายที่สุดก็เสียหายไปถึงคณะสงฆ์ไทย..!
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่ใหญ่โตมาก จึงอยากจะฉวยโอกาสที่เรื่องเพิ่งจะเกิดขึ้น ระงับการกล่าวถึงเรื่องอื่น ๆ เอาไว้ก่อน เอาเรื่องนี้เป็นหลัก ท่านทั้งหลายกลับไปทบทวนเสียก่อน ไม่ว่าท่านที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ ควรที่จะเร่งทบทวนเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ให้รู้แจ้งเห็นจริง ไม่ว่าท่านจะศึกษานักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอกอย่างไรก็ตาม ท่านที่ศึกษาผ่านมาแล้ว เร่งกลับไปทบทวน ท่านที่ยังศึกษาไม่ถึง เร่งศึกษาให้ถึง จะได้ไม่กระทำสิ่งที่ผิดพลาดขายหน้าแบบนี้ให้เกิดขึ้นกับคณะสงฆ์อีก และญาติโยมทั้งหลาย ถ้าหากว่าเคยอุปสมบทมาแล้วก็ดี ยังไม่เคยอุปสมบทก็ตาม ก็สามารถที่จะหาตำรานักธรรมบาลีเหล่านี้มาศึกษาได้
โดยเฉพาะพระไตรปิฎกในส่วนของกฐินขันธกะในพระวินัยปิฎก ท่านทั้งหลายอ่านให้ปรุโปร่ง อ่านให้เข้าใจ ถึงเวลาถ้าพระภิกษุสงฆ์ทำผิดทำพลาด จะได้กราบขออนุญาตเรียนถวายสิ่งที่ถูกต้องแก่ท่านได้ จึงจะสมกับความไว้วางใจที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ฝากภารธุระในพระพุทธศาสนาเอาไว้กับพุทธบริษัททั้ง ๔ ของพระองค์ท่าน โดยที่หวังเอาไว้ว่า อายุพระศาสนาจะได้ยืนยงครบถ้วน ตามเวลาที่พระองค์ท่านทรงตั้งเจตนารมณ์เอาไว้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2024 เมื่อ 01:33
|