ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงถามย้อนกลับไปว่า "สงครามอะไร ? คุณรบกับใคร ? ฉันไม่ได้ทำสงครามกับใคร ถ้าหากว่ากำลังทำสงครามอยู่ ก็คือทำสงครามกับความหิวโหยของประชาชน" พูดง่าย ๆ ก็คือพระองค์ท่านกำลังต่อสู้ในการที่ทำให้ประชากรไทยของเรา อันดับแรกเลย ได้กินอิ่มปากอิ่มท้อง อันดับที่สองก็คือยกระดับความเป็นอยู่ในชีวิตให้ดีขึ้น แล้วพระองค์ท่านก็กระทำได้สำเร็จ
ในขณะที่อินโดจีนลุกเป็นไฟ โดนลัทธิคอมมิวนิสต์ครอบงำจนหมด ประเทศไทยเป็น "โดมิโน" ตัวเดียวที่ไม่ได้ล้มตาม เพราะว่าเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้เห็นพสกนิกรเป็นศัตรู หากแต่เห็นเป็นลูกหลาน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องให้การสงเคราะห์ แม้ว่าจะเกเรไปบ้างก็ถือว่าเป็นลูกหลานเช่นกัน จนกระทั่งคุณงามความดีตรงนี้ ชนะแนวคิดซึ่งเป็นไปไม่ได้ในแบบของมาร์กซิสม์ หรือที่เรียกว่าคอมมิวนิสต์ เพราะว่าจะให้ทุกคนเสมอกัน
ถ้าเราทั้งหลายศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพี่ใหญ่อยู่ในปัจจุบันนี้ประเทศหนึ่งของโลก เราจะเห็นว่าเขาเสียเวลาจ่อมจมอยู่กับลัทธิคอมมิวนิสต์นานมาก ทำให้ประเทศชาติล้าหลังตามใครไม่ทัน จนกระทั่งมาถึงสมัยประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิงจึงค่อยเปิดกว้าง รับเอาแนวคิดทุนนิยมจากโลกภายนอกเข้าไป โดยมีอมตะวาจาว่า "จะแมวขาวหรือแมวดำ ถ้าสามารถจับหนูได้ก็ถือว่าเป็นแมวที่ดี" พูดง่าย ๆ ก็คือจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือทุนนิยม ถ้าทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ ก็ถือว่าเป็น "แมว" ที่ดีนั่นเอง หลังจากนั้นประเทศจีนก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้น..ในเรื่องของความเสมอภาคโดยแท้จริงแล้วไม่มี โดยเฉพาะในพระพุทธศาสนาของเรา เพราะว่าแต่ละคนทำกรรมมาไม่เท่ากัน เรามีกรรมเป็นกำเนิด เรามีกรรมเป็นทายาท เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ในเมื่อทำกรรมมาไม่เท่ากัน แล้วจะให้ทุกคนเสมอกันย่อมเป็นไปไม่ได้
ที่นักการเมืองบางพรรคพยายามที่จะขายฝัน จะให้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเสมอกัน เท่าที่กระผม/อาตมภาพมอง ๆ มาก็คือ ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจคำว่าสิทธิและเสรีภาพเสียด้วยซ้ำไป มักจะคิดว่าการที่ตนเองทำอะไรอย่างอิสระตามใจตนเอง นั่นคือสิทธิและเสรีภาพที่ควรมี โดยที่ไม่ได้ดูว่าการกระทำของตนเองนั้น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอย่างไรบ้าง ก็คือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเองอย่างเต็มที่ แต่ไปล่วงสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นลักษณะของการตีความแบบไร้ปัญญา..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2024 เมื่อ 02:06
|