กระผม/อาตมภาพกำหนดจิตน้อมอาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครอบลงยังกองวัตถุมงคล แล้วก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความเมตตาขององค์ท่าน ในขณะเดียวกัน ก็แอบดูในเรื่องของจิตสมาธิของบรรดาพระเถราจารย์ที่มาร่วมภาวนาด้วย ปรากฏว่าพระเดชพระคุณพระราชพัฒนากร (หลวงพ่อสมชาย ฉนฺทสาโร) วัดปริวาสราชสงคราม มาถึงตอนไหนก็ไม่รู้ ? นั่งเยื้อง ๆ อยู่เฉียงกันในระหว่างกองวัตถุมงคล
กระผม/อาตมภาพดูจนรอบข้างแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เนื่องเพราะว่าในมณฑลพิธีนี้ ถ้าไม่นับหลวงปู่พีร์แล้ว มีที่อาวุโสกว่าอยู่แค่ ๒ รูปเท่านั้นก็คือหลวงพ่อสมชาย วัดปริวาสราชสงคราม ที่ท่านอายุมากกว่า ๖ ปี แต่พรรษามากกว่า ๑๒ พรรษา ส่วนหลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์นั้น ท่านอายุน้อยกว่า ๒ ปี แต่ว่าพรรษามากกว่า ๓ พรรษา ส่วนท่านอาจารย์ประสูติ (พ่อท่านสูติ) วัดในเตานั้น แม้ว่าพรรษาจะเท่ากัน แต่อายุท่านน้อยกว่าถึง ๖ ปี ส่วนที่เหลือก็อยู่ในรุ่นน้องหรือว่ารุ่นลูกศิษย์ไปเสียแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจว่า "เออหนอ..เราแก่จนป่านนี้"
พอดีพระท่านเตือนว่า "เต็มแล้ว" กระผม/อาตมภาพจึงได้ถอนจิตจากการพิจารณาวิปัสสนาญาณ ขึ้นมาทำน้ำมนต์พรมในมณฑลพิธี โปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา ทางเจ้าภาพก็คือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการสร้างวัตถุมงคลในวันนี้ ก็รีบเข้ามาถวายไทยธรรม
กระผม/อาตมภาพรับแล้วก็กราบลาพระประธาน ออกมาเรียกแท็กซี่กลับสู่ที่พัก ได้แต่นั่งคิดว่า "ทำไมเราถึงได้แก่เร็วขนาดนี้ ?" เนื่องเพราะว่าสมัยก่อนนั้น บางทีกระผม/อาตมภาพเห็นเด็ก ๆ แล็วก็คิดว่า "เด็กเหล่านี้โตเร็วมาก" แต่พอนึกไปนึกมา กระผม/อาตมภาพก็หวนกลับมาพิจารณาตนว่า "ไม่ใช่เด็กเหล่านี้โตเร็ว หากแต่ว่าเราเองแก่เร็วต่างหาก..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2024 เมื่อ 03:50
|