วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ในส่วนของเรื่องรถทัศนาจรโดนไฟไหม้จนมีผู้เสียชีวิต ๒๓ ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนบาดเจ็บได้รับเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่วนผู้ที่เสียชีวิตก็รับเป็นเจ้าภาพงานศพให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เปรียบเสมือนกับพ่อของคนไทยทั้งประเทศ เมื่อถึงเวลามีเรื่องเดือดร้อนขึ้นมา ก็ทำหน้าที่สงเคราะห์ต่อลูก ๆ
เพียงแต่ว่าทางส่วนราชการ ซึ่งทำหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณ บางทีส่วนหนึ่งก็แกล้งโง่ อย่างเรื่องที่มีผู้เดือดร้อนเพราะว่าไปซื้อทองคำจากร้านแม่ตั๊ก ปรากฏว่าวันนี้มีคนส่งคลิปมาให้ บอกว่าผลการพิสูจน์แล้วจากทองคำที่หน้าร้านของแม่ตั๊กนั้น ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดทุกรายการที่นำไปทดสอบ..!
กระผม/อาตมภาพฟังแล้วก็ "น้ำตาจิไหล" คือถ้าไม่ใช่โง่สนิทก็ต้องแกล้งโง่ถึงขนาด..! เพราะว่าคนที่เดือดร้อนคือคนที่ซื้อทองคำไป คนที่เขาซื้อไปเขามั่นใจว่าของที่เขาซื้อไปนั้นไม่แท้ เพราะว่าขายต่อไม่ได้ แต่ฝ่ายตรวจสอบเอาทองคำที่หน้าร้านไปตรวจสอบ ฟังดูก็รู้ว่ามีงาน..!
แต่ว่าเรื่องพวกนี้ก็ปล่อยเขาไป เรายืนดูอย่างห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ก็พอ เนื่องเพราะว่าสถานการณ์ทั้งประเทศชาติและทั้งโลกก็ต้องบอกว่ากระชั้นเข้ามามากขึ้นทุกที ใครมีญาติพี่น้องทำงานอยู่อิสราเอล บอกเขาไปเลยว่า "ถ้ามีโอกาสให้รีบกลับอย่างเร่งด่วนที่สุด" ถ้าใครจะคิดว่าคราวที่แล้วพกวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วรอดมาได้ คราวนี้จะอยู่ต่อก็ต้องบอกว่าตัวใครตัวมัน..!
เนื่องเพราะว่าเรื่องของวัตถุมงคลนั้น บางทีกันอาวุธขนาดเบาได้ แต่ไปเจออาวุธขนาดหนักก็กันไม่ไหว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าใครที่ไม่กลับ คิดว่าตนเองอยู่ในที่ปลอดภัย หรือว่ามีวัตถุมงคลดีช่วยเหลือตนเองได้ ให้หมั่นสวดมนต์ภาวนาเอาไว้ก็แล้วกัน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2024 เมื่อ 03:14
|