ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 04-10-2024, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,243 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การกินเจมีการเว้นจากพืชผักที่มีกลิ่นฉุนบางประเภท อย่างเช่นกระเทียม เป็นต้น เพราะว่าพืชผักเหล่านี้จะไปกระตุ้นกามราคะ ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกว่ากินแล้วไม่สะอาดหรือว่าไม่ดี ก็จะพลอยเว้นไปด้วย แต่ประหลาดอยู่เรื่องหนึ่งก็คือการกินเจ เขาไม่เว้นจากหอยนางรม..!

กระผม/อาตมภาพเคยได้ยินผู้ใหญ่เขาเล่าให้ฟังว่า ครั้งที่ซุนหงอคงพาพระถังซำจั๋งไปยังชมพูทวีป ไปติดอยู่ที่ชายทะเล ไม่มีข้าวปลาอาหารอะไร ไม่มีหมู่บ้านให้บิณฑบาต ซุนหงอคงก็เลยเอากระบองของตนเองแหย่ลงไปในทะเล แกว่ง ๆ แล้วก็อธิษฐานว่า "อะไรที่เป็นอาหารเจก็ขอให้ติดกระบองขึ้นมา" ปรากฏว่ามีหอยนางรมติดกระบองขึ้นมา เจ้าหอยนางรมก็เลยซวย กลายเป็นอาหารเจ..! แต่ว่าเรื่องพวกนี้ผู้ใหญ่เขาเล่าให้ฟัง

อีกเสียงหนึ่งเขาบอกว่าหอยนางรมเป็นสัตว์ที่แปลกมาก ก็คือไม่มีเลือด แล้วก็ไม่มีกลิ่นคาว แต่คราวนี้กระผม/อาตมภาพไม่เคยฉัน ก็เลยยืนยันตรงนี้ไม่ได้ เพราะว่าเพื่อนฝูงชวนไปทีไรก็มีแต่หอยนางรมสด แล้ว
พระเราก็ห้ามฉันของสด ก็เป็นอันว่าอดไป ในเมื่อยืนยันไม่ได้ จึงไม่ขอยืนยันที่มาในเรื่องของหอยนางรมนี้ แต่ถ้าหากว่าที่ผู้ใหญ่เขาเคยเล่าให้ฟัง ก็ถือว่าเป็นนิทานปรัมปราซ้อนนิทานในเรื่องไซอิ๋วอยู่อีกทีหนึ่ง

คราวนี้การกินเจนั้น ถ้าหากว่าตั้งใจทำด้วยจิตที่เมตตาต่อสรรพสัตว์จริง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพียงแต่ว่าถ้าทำในลักษณะนั้นก็ต้องเพิ่มอาหารโปรตีนประเภทพวกถั่วอะไรให้มากขึ้น จะได้ทดแทนเนื้อสัตว์ได้ แต่ถ้าหากกินเจแล้วไปคิดว่าตัวเองเป็นคนดี เป็นคนสะอาด ไม่เบียดเบียนคนอื่น กูเป็นคนดีกว่า ถ้าลักษณะนั้นเขาเรียกว่ากินแล้วแบกกิเลสไปด้วย ก็จะตกอยู่ในลักษณะของการทำบุญเอาหน้า


ในเรื่องของการกินเจ อย่างสมัยที่หลวงตาปรีชา (พระปรีชา อกิญฺจโน) ยังอยู่ ท่านก็จะไปขออาหารที่โรงเจ กระผม/อาตมภาพต้องดุเอาว่า "หลวงตากำลังจะหาเรื่องอาบัติติดตัว" ก็คือ "อาหารในโรงทานที่ทำทั่วไปไม่นิยมบุคคล ภิกษุไปรับอาหาร ๒ วันติดกันต้องอาบัติปาจิตตีย์" ถ้าอยากกินเจเพราะว่าทำจนกระทั่งเคยชินก็ไปบอกแม่ชีเขาผัดผักให้ ไม่ใช่ไปรับอาหารจากโรงเจ เดี๋ยวจะศีลขาดเสียเปล่า ๆ เพราะขาดความระมัดระวัง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2024 เมื่อ 01:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา