วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพทำบวงสรวง เพื่อขออนุญาตจัดงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ และปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับทางวัดอุทยาน ถนนเลียบคลองบางกอกน้อย หมู่ที่ ๕ ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
การภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบในครั้งนี้นั้น ผศ.,ดร. สุวัฒสัน รักขันโท ประธานหลักสูตรประกาศนียบัตร ศาสตร์และศิลปะแห่งชีวิตตามแนวพุทธจิตวิทยา จากภาควิชาจิตวิทยา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ทำหนังสือขออนุญาตให้นิสิตเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งความจริงทางเราก็ไม่ได้มีการหวงห้ามที่ใครจะไปจะมา แต่ว่าการจัดกิจกรรมในลักษณะแบบนี้ เมื่อถึงเวลามีการตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ก็จะต้องมีร่องรอยของการจัดกิจกรรมเอาไว้ ให้เขาได้รู้เห็นว่าทำงานกันจริง ๆ จึงต้องมีหนังสือขอความร่วมมือในการนำนิสิตมาร่วมงานด้วย
เสร็จจากการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบแล้ว ญาติโยมได้ร่วมกันทำบุญกับกระผม/อาตมภาพมา ๗๐,๐๐๐ กว่าบาท ก็ได้ถวายให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ., ดร. เอาไว้ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอุทยาน ซึ่งท่านแจ้งว่าจะนำไปทาสีอาคารศาลาการเปรียญเสียใหม่ ต้องขออนุโมทนาและเจริญพรอนุโมทนากับญาติโยมทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันในครั้งนี้ด้วย
เมื่อฉันเพลแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้วิ่งไปยังวัดหนองโพ ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ ๙ ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ตามที่พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งท่านได้นิมนต์มาปลุกเสกเดี่ยววัตถุมงคล เพื่อที่จะเอาไว้หาทุนในการสร้างศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่ ซึ่งตรงนี้กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวไป เกี่ยวกับบุคคลบางประเภทที่กล่าวว่า "ทำไมถึงจะต้องสร้างวัตถุมงคลหาเงินด้วย ? เนื่องเพราะว่าพระพุทธเจ้าให้พวกเราอยู่ป่า..!"
ตรงจุดนี้บางทีคนเราเมื่อถึงเวลาก็ "เถรตรง" บ้าง ปัญญาไม่ถึงบ้าง จึงทำให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น มีแนวคิดที่ค่อนข้างจะผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง พูดง่าย ๆ ว่าสมัยนี้วัยรุ่นเขาบอกว่า "อยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์" ก็คือไม่ได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง หากแต่ว่าอยู่ในโลกของความเพ้อฝัน
จึงทำให้พระพุทธศาสนาในปัจจุบันนี้ค่อนข้างที่จะสับสนวุ่นวาย เพราะว่าผู้ที่แสดงตนว่าเป็นผู้รู้นั้น ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อต่าง ๆ มากต่อมากด้วยกัน แล้วก็มีจำนวนมากที่แสดงความคิดเห็นผิด ๆ อย่างเช่นว่า "การุณยฆาตถือว่าไม่ผิดศีล..!" ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ใจหายวาบ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2024 เมื่อ 02:59
|