ในเมื่อภาวนาไปในตัวก็คือสร้างสมาธิไปในตัว เพราะฉะนั้น..ท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องไปกังวลเลยว่า "เรียนหนังสือแล้วเราจะไม่มีเวลาภาวนา" หนังสือทุกตัวนั่นแหละคือคำภาวนา พอสมาธิทรงตัวได้ที่ ของเก่าจะกลับมาเอง ท่านก็เลยถอดกายในได้ ทั้ง ๆ ที่ท่องบาลีนั่นแหละ..! ไม่เหมือนกระผม/อาตมภาพ ที่ต้องฝึกมโนยิทธิแทบตายกว่าที่จะทำได้ ท่านแค่ท่องบาลีก็ทำได้แล้ว
การท่องบาลี ผลที่ปรากฏชัดอีกท่านหนึ่งก็คืออดีตพระมหาทองดี โชติปญฺโญ ป.ธ. ๖ อดีตเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และอดีตเจ้าอาวาสวัดหัวนา ด้วยความที่ท่านเป็นเลขาฯ เจ้าคณะจังหวัด เวลาพระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทฺโธ ป.ธ. ๔) หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดสมัยนั้นไม่อยู่ คนเอารถมาให้เจิม ท่านก็เจิมไป ปรากฏว่าไปได้ดี
ก็คือในช่วงนั้น ส่วนใหญ่ถ้าคนไม่ไปให้หลวงพ่อลำใย (พระมงคลสิทธิคุณ) วัดทุ่งลาดหญ้าเจิม ก็จะมาที่วัดท่ามะขาม ปรากฏว่าเขาไปลือกันว่า "มหาทองดีเจิมรถแล้วอยู่รอดปลอดภัย ไม่เหมือนหลวงพ่อลำใย เจิมเมื่อไรชนเมื่อนั้น..!" ความจริงคนที่ไปเจิมรถกับหลวงพ่อลำใยไม่รู้เคล็ดลับ ก็คือพอจะออกจากวัดก็ให้ชนอะไรสักอย่างหนึ่งก่อน พุ่มไม้ดอกไม้อะไรก็ได้ ถือว่าชนแล้ว แล้วหลังจากนั้นก็จะปลอดภัยไปตลอด แต่ของมหาทองดีนี่ ไม่ต้องไปเสียเวลาทำอย่างนั้น แกเจิมไปแล้วอยู่รอดปลอดภัยตั้งแต่ต้นยันปลายเลย..!
กระผม/อาตมภาพก็สงสัย ถามว่า "อาจารย์มหา..ใช้คาถาอะไรครับ ?" ก็คืออยากจะขโมยวิชาบ้าง ท่านบอก "ไม่มีอะไรหรอกครับ ไอ้ผมเองประเภทเรียนบาลีมาแต่ต้น ผมก็ สิ โย, อัง โย, นา หิ, สะ นัง ฯลฯ ไปเรื่อย แล้วก็จิ้มจนกระทั่งครบ ๙ จุดก็จบแล้ว..!" เห็นหรือยังว่าท่องบาลีก็ขลังได้..!
ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมนะครับ สมัยก่อนที่เขาเรียนบาลีกัน ครูบาอาจารย์เขาเขียนเป็นตัวหนังสือด้วยชอล์ก ไม่ว่าจะบนกระดาษเขียวหรือกระดานดำก็เถอะ พอถึงเวลาเขียนไปลบไป เขียนไปลบไป ฝุ่นชอล์กกองหนาเป็นนิ้ว รู้หรือเปล่าว่าเขาโกยไปทำผงสร้างพระกัน แล้วโคตรขลังเลยครับ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2024 เมื่อ 02:52
|