แต่ว่าเรื่องทุกเรื่อง พอถึงเวลามีเรื่องอื่นขึ้นมาแทนก็จะค่อย ๆ หมดความสนใจไป แล้วต่อให้ความจริงชัดเจนขนาดไหน สื่อมวลชนที่ด่าไปแล้วไม่เคยมาแก้ข่าวให้ ถึงได้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันหลังจากที่มีเรื่องมีราว รอจนศาลตัดสินกว่าที่จะมีการลงข้อความขอขมากัน ก็คือขายข่าวเอามันไว้ก่อน ไม่ได้สนใจว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร แล้วข่าวนั้นจะสร้างความเสียหายให้กับคนอื่นเท่าไรก็ไม่ว่า เพราะว่าตนเองขายได้
พวกเราทำอะไรจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะว่าต่อให้คุณทำด้วยความหวังดี ปรารถนาดี แต่ถ้าเผลอไป "เตะลูกเข้าทางตีน" ใครเข้า ก็จะโดนแบบท่านเจ้าคุณกล้าโดนอยู่ ซึ่งคาดว่าถ้าสามารถฝ่ามรสุมลูกนี้ไปได้ ก็คงมีการเติบโตทางด้านจิตใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าโดยปกติแล้ว ชีวิตท่านค่อนข้างจะราบรื่นมาตลอด ตอนสมัยที่เรียนปริญญาเอกอยู่ด้วยกัน แทบจะเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดในห้อง แต่ว่าตอนนั้นท่านเป็นรองเจ้าคณะอำเภอแล้ว มาถึงตอนนี้ก็เป็นเจ้าคุณตั้งแต่หนุ่ม ๆ ต้องโดนมรสุมแบบนี้จะได้แข็งแกร่งขึ้น หรือไม่จะถอดใจสึกหาลาเพศไปเลย..!
พวกเราต้องเข้าใจว่า เราทำอะไรจะอยู่ในสายตาชาวบ้านเสมอ สิ่งหนึ่งประการใดที่จะคิด จะพูด จะทำ ต้องระวังเอาไว้ว่าสร้างความเสียหายให้กับตัวเองและวัดวาอารามของเราหรือเปล่า ? แล้วโดยเฉพาะบางอย่าง เราอาจจะคิดสั้น ประสบการณ์ไม่ถึง ทำไปด้วยความหวังดีปรารถนาดี ก็ยังกลายเป็นเสียหายไปได้ ต้องถือว่าเป็นบทเรียนสอนใจ ที่เราจะเอาไว้ใช้ในการทำหน้าที่ต่าง ๆ ของเราต่อไปในกาลภาคหน้า
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2024 เมื่อ 02:14
|