จึงเป็นภาระที่เราท่านทั้งหลาย ทำอย่างไรที่จะขัดเกลาให้เด็กรุ่นใหม่ ๆ เข้าวัดเข้าวา รู้จักศีล รู้จักธรรม แล้วปฏิบัติได้ถูกต้อง อย่างของวัดเรายังดี ยังมีโครงการนำนักเรียนเข้าวัดทุกวันพระ มีโครงการนำนักเรียนเข้าวัดทุกวันศุกร์ ซึ่งบางทีก็สลับไปเป็นทุกวันจันทร์ แต่ว่าที่อื่นไม่ได้เป็นแบบนี้ จึงขึ้นอยู่กับแต่ละแห่งว่า ทำอย่างไรที่เราจะปฏิบัติการเชิงรุก ในการดัดไม้อ่อนให้เข้าที่เข้าทาง อย่ารอจนกระทั่งกลายเป็นไม้แก่ที่ดัดไม่ได้..!
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องทำตัวเราให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก พูดง่าย ๆ ว่าต้องค่อย ๆ ปลูกศรัทธาไป การสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญพระกรรมฐาน จึงเป็นเรื่องของการปลูกศรัทธา ถ้าเราทำอยู่วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า ไม่เบื่อไม่หน่าย นานไปญาติโยมเขาก็จะเห็น แล้วค่อย ๆ ให้การยอมรับ เมื่อถึงตอนนั้น "จะชี้นกก็เป็นนก จะชี้ไม้ก็เป็นไม้" ญาติโยมเขายอมทำตามทั้งหมด
แต่เราต้องระวังตัวเอง ว่าถึงเวลาตอนนั้นแล้ว โลกธรรมจะเข้ามา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข จะเข้ามา จะบริหารจัดการอย่างไรที่ไม่ให้จิตใจของเราหวั่นไหวไปกับเรื่องทั้งหลายเหล่านั้น จึงขอฝากไว้เป็นการบ้านให้กับทุกคนว่า เรื่องของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องยาก แต่ไม่เกินความพยายามของเรา ขอให้ทำจริง ถึงเวลาก็จะได้รับผลจริงกันทุกคน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2024 เมื่อ 02:27
|